
รีวิวฉบับที่ 2887 … เปิดตัวโครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้นพร้อมลิฟต์ในตัวและ Glass House ในโซนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า จาก Land & Houses ทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติ Ascot Bangkok เพียง 2-3 กิโลเมตร ผู้ปกครองไปรับ-ส่งได้สบายๆ ตัวบ้านได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 Glass House และ 1 ห้องแม่บ้าน บนที่ดินเริ่มต้น 120 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 68 ล้านบาท สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย
- ทำเลติดถนนใหญ่ มีซอยให้ลัดเลาะ : โครงการติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก สามารถออกไปทางซอยกาญนาภิเษก 12 เพื่อมายังถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าได้ด้วย
- รายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ : ใกล้ที่สุดไม่ถึง 3 กิโลเมตรจะเป็น Ascot International School Bangkok ส่วน Wellington College International School Bangkok ก็อยู่ในระยะ 5 กิโลเมตร ผู้ปกครองไปรับ-ส่งได้สะดวก
- ยูนิตส่วนใหญ่เป็นแปลงมุมหรือแปลงหน้าสวน : เพราะมี Park Strip คั่นกลางทุก 2 ยูนิต และยูนิตที่ติดถนนหลักหันหน้าเข้าสวนส่วนกลาง
- มีลิฟต์ให้ตั้งแต่ Type เริ่มต้น : โครงการมีลิฟต์ภายในตัวบ้านมาให้ทุกยูนิต ใช้ขึ้น-ลงบ้านได้สะดวก
- ทุกห้องนอนมีจุดเด่น : ห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่และมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตอบโจทย์คนแต่ละสไตล์
- มี Glass House ทุกยูนิต : อยู่บริเวณชั้น 2 เป็น Highlight ของบ้านเลย ใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้
ข้อมูลโครงการ
VIVE New Krungthep Kreetha ( วีเว่ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2568
ชื่อโครงการ | VIVE New Krungthep Kreetha ( วีเว่ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | LUXURY-SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนกาญจนาภิเษก แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 48 – 1 – 12.7 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 73 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1198 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ทำเลติดถนนใหญ่ มีซอยให้ลัดเลาะ : โครงการติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก สามารถออกไปทางซอยกาญนาภิเษก 12 เพื่อมายังถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าได้ด้วย
- รายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติ : ใกล้ที่สุด 2- 3 กิโลเมตรจะมี Ascot International School Bangkok , Heathfield International School ส่วน Wellington College International School Bangkok ก็อยู่ในระยะ 5 กิโลเมตร ผู้ปกครองไปรับ-ส่งได้สะดวก
- ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วน : ทั้งวงแหวนกาญจนาภิเษก , ทางด่วนศรีรัช ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากขึ้น
พิกัด Google Maps : 13.761828387005234, 100.6961351659029
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ตั้งอยู่ติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก บริเวณก่อนถึงซอยกาญจนาภิเษก 12 เพียงเล็กน้อย ถนนเส้นนี้มีโครงการจัดสรรทั้งเก่าใหม่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าเป็นการขยายออกมาจากตัวเมืองโซนรามคำแหง , ศรีนครินทร์ ริมถนนจึงมีร้านค้าร้านอาหาร รวมถึงร้านสะดวกซื้ออยู่ประปราย
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้มีทั้งฝั่งรามคำแหงและกรุงเทพกรีฑา อย่าง Sammakorn Place รามคำแหง , Makro Food Service รามคำแหง , Nirvana PORCH และ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ทำให้ลูกบ้านเดินทางจับจ่ายซื้อของกินของใช้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง แต่ถ้าใครชอบเดินห้างใหญ่ๆจะมี The Mall Lifestore Bangkapi , Fashion Island อยู่ห่างจากโครงการ 8-9 กิโลเมตร
ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลโครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ คือใกล้กับโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ในระยะ 2-3 กิโลเมตรมีทั้ง Ascot International School Bangkok , Heathfield International School ส่วน Wellington College International School Bangkok ก็ห่างออกไปเล็กน้อย ผู้ปกครองจึงไปรับ-ส่งลูกหลานได้สะดวก
เราสามารถเข้า-ออกโครงการได้จากถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แต่บริเวณข้างโครงการจะมีซอยกาญจนาภิเษก 12 ทำให้เราใช้เส้นทางนี้ลัดเลาะ มายังถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าได้ด้วย ทำให้เรามีตัวเลือกเส้นทางเวลารถฝั่งใดฝั่งหนึ่งติดนะ
โครงการอยู่ห่างจากทางขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งไปยังบางนาประมาณ 4.7 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนบางนา , สมุทรปราการ
จากโครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ห่างจากทางขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งไปบางนาประมาณ 4.7 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปได้ทั้งโซนบางนา , สมุทรปราการ ส่วนทางขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งไปปทุมธานี ห่างจากโครงการประมาณ 5.3 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนปทุมธานี
หากใครต้องการเดินทางไปยังชลบุรีก็สามารถใช้ทางด่วนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ที่ห่างออกไปประมาณ 9 กิโลเมตรได้ และถ้าหากต้องการเดินทางไปโซนพระราม 9 , ประตูน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งทางด่วนศรีรัชที่ห่างจากโครงการประมาณ 9.7 กิโลเมตร
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
รอบๆโครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 1-2 ชั้น , บ้านจัดสรร 2 ชั้น , โรงเรียน 4 ชั้น , วัด , ชุมชนบ้าน 1-2 ชั้นและที่ว่างรอการพัฒนา เรามองว่าในอนาคตอาจถูกพัฒนาไปเป็นโครงการจัดสรรได้อีก
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 1-2 ชั้น , บ้านจัดสรร 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก , โรงเรียน 4 ชั้นและวัด
- ทิศใต้ ติดกับ ชุมชนบ้าน 1-2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยกาญจนาภิเษก 12 , ชุมชนบ้าน 1-2 ชั้นและที่ว่างรอการพัฒนา
บรรยากาศหน้าโครงการ
ด้านหน้าโครงการติดกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก , ถนนกาญจนาภิเษกซึ่งมีรถสัญจรไปมาอยู่ตลอด เพราะเป็นถนนที่ใช้ออกไปยังปทุมธานี , สมุทรปราการและจังหวัดอื่นๆ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Sammakorn Place Ramkhamhaeng ~ 3.9 km.
- Nirvana PORCH ~ 4.2 km.
- Little Walk Krungthep Kritha ~ 4.3 km.
- The Paseo Town Ramkhamhaeng ~ 5.3 km.
- Market place Krungthep Kreetha ~ 7 km.
- The Mall Lifestore Bangkapi ~ 8.2 km.
- Fashion Island ~ 9.4 km.
โรงพยาบาล
- Kasemrad Ramkhamhaeng Hospital ~ 4.6 km.
- Samitivej Srinakarin Hospital ~ 9.5 km.
- Vejthani Hospital ~ 9.6 km.
โรงเรียน
- Ascot International School Bangkok ~ 2.8 km.
- Heathfield International School ~ 3.6 km.
- Wellington College International School Bangkok ~ 5.3 km.
- romsgrove International School (Early Years) ~ 7.6 km.
- Brighton College Bangkok ~ 8 km.
- Assumption University Hua Mak ~ 9.4 km.
การเดินทาง
- วงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 5.8 km.
- MRTสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ~ 7.3 km.
- ทางด่วนศรีรัช ~ 9 km.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 17.6 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ยูนิตส่วนใหญ่เป็นแปลงมุมหรือแปลงหน้าสวน : เพราะมี Park Strip คั่นกลางทุก 2 ยูนิต และยูนิตที่ติดถนนหลักหันหน้าเข้าสวนส่วนกลาง
- ส่วนกลางหลากหลาย : มีพื้นที่ส่วนกลางที่หาได้ยาก เช่น สนามพัตกอล์ฟ , สนามบาสเกตบอล
- Clubhouse ดีไซน์โดดเด่น : อยู่ด้านหน้าโครงการทำหน้าที่เหมือนมุมต้อนรับแขก เป็นหน้าตาให้กับโครงการ
โครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นบนที่ดิน 48 – 1 – 12.7 ไร่ รวมทั้งหมด 73 ยูนิต ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 4 ไร่ ถือว่าให้ส่วนกลางมาเยอะทีเดียวนะ จากการวางผังโครงการ เรามองว่าน่าสนใจทีเดียวนะ แบ่งออกเป็นประเด็นได้ดังนี้
- Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ มีดีไซน์โดดเด่นทำหน้าที่เหมือนมุมต้อนรับแขก เป็นหน้าตาให้กับโครงการ
- มีฟังก์ชันส่วนกลางหายาก เช่น สนามพัตกอล์ฟ , สนามบาสเกตบอล
- ยูนิตส่วนใหญ่เป็นแปลงมุม หรือแปลงหน้าสวนเพราะมี Park Strip คั่นกลางทุก 2 ยูนิต และยูนิตที่ติดถนนหลักหันหน้าเข้าสวนส่วนกลาง
- โครงการวางผังให้ถนนหลักวนรอบโครงการ เชื่อมต่อกันหมด ทำให้เราเข้า-ออกตัวบ้านได้ 2 ทาง
ส่วนโซนบ้านที่น่าสนใจจะมีอยู่ 5 โซนด้วยกัน
- โซนสีส้ม : บ้านที่หันหน้าเข้าสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และเดินมาใช้ Clubhouse ได้ง่าย
- โซนสีม่วง : ใกล้กับ Clubhouse สามารถเดินมาใช้พื้นที่ส่วนกลาง จากทางด้านหลังอาคาร Clubhouse ได้สบายๆ
- โซนเขียว : ใกล้กับสนามพัตกอล์ฟ เหมาะกับคนที่ชอบตีกอล์ฟเป็นพิเศษ
- โซนแดง : ใกล้กับสนามบาสเกตบอล เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกลางแจ้ง
ซุ้มประตูโครงการเป็นแนวยาวสีขาวติดกับถนนใหญ่ ทำให้เห็นซุ้มประตูโครงการได้ชัดเจน ด้วยดีไซน์แนวโฉบเฉี่ยว ดูมินิมอลแต่เรียบหรูในเวลาเดียวกัน ช่วยดึงดูดสายตาคนที่ขับรถผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศซุ้มประตูโครงการ
ซุ้มประตูโครงการเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า มีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดฝนให้คนที่เข้ามาติดต่อ นอกจากประตูจะแยกฝั่งเข้า-ออกไว้อย่างชัดเจนแล้ว ยังแบ่งเลนระหว่างลูกบ้านและผู้มาติดต่อให้ด้วย โดยฝั่งลูกบ้านจะใช้เป็นระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ใช้งานสะดวก ไม่ต้องคอยหยิบคีย์การ์ดมาสแกน และไม่ต้องติดอุปกรณ์เสริมภายในรถเราเพิ่มเติมเลยค่ะ ส่วนฝั่งแขกที่มาติดต่อจะต้องแลกบัตรก่อนนะ แล้วระบบจะแจ้งเตือนไปยังมือถือของลูกบ้าน เพื่อรายงานว่ามีคนมาเยี่ยมเยือนค่ะ
ด้านข้างซุ้มประตูโครงการทั้ง 2 ฝั่งมีทางเดินเข้า-ออก สำหรับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถยนต์อยู่ด้วย เดินเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัยเลยนะ
บรรยากาศ Clubhouse ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ
เมื่อผ่านซุ้มประตูโครงการมา เราจะเห็น Clubhouse ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสะดุดตา เป็นเหมือนมุมต้อนรับเวลามีคนมาชมเยี่ยมชมโครงการ สร้างบรรยากาศที่ดีและเป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการ
บรรยากาศฝั่งซ้าย-ขวาของ Clubhouse เป็นโซนพักอาศัย
ฝั่งขวาของ Clubhouse เป็นโซนพักอาศัย ส่วนฝั่งขวาเป็นพื้นที่จอดรถของอาคาร Clubhouse และโซนพักอาศัยเช่นกัน
ด้านข้างของ Clubhouse มีพื้นที่จอดรถกลางแจ้งประมาณ 5 คัน สำหรับลูกบ้านที่อยู่โซนด้านใน ขับออกมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
ทางเข้า Clubhouse จากที่จอดรถ
อาคาร Clubhouse สามารถเข้าถึงได้หลายทางเลยนะ แต่เราขอพูดถึงทางเข้าฝั่งด้านหน้าโครงการก่อน ทางเข้าออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้ตั้งแต่บริเวณที่จอดรถและถนนหลัก ไปจนถึงตัวอาคารเลยค่ะ
ด้านหน้าอาคารมีมุมพักผ่อนเล็กๆ ให้ลูกบ้านมานั่งพบปะพูดคุยกันได้สบายๆ พร้อมชมบรรยากาศพื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการได้เต็มตา
บรรยากาศภายใน Lobby และ Sales Gallery
ภายใน Clubhouse มีทั้งส่วน Lobby และ Sales Gallery ฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ลูกบ้านใช้เป็นพื้นที่พบปะพูดคุยกัน หรือรองรับแขกได้ ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกเข้าไปยังตัวบ้าน ด้านหลังมีมุมเคาน์เตอร์ยาวที่สามารถเอางานมานั่งทำได้เพลินๆ ด้วยค่ะ
บรรยากาศมุมนิทรรศการความเป็นมาของ Vive
อีกฝั่งหนึ่งเป็นเหมือนนิทรรศการ เล่าประวัติความเป็นมาของโครงการ เพราะ Vive แต่ละโครงการจะมีแบบบ้านไม่ซ้ำกันเลยนะ พร้อมมีโมเดลบ้านและผังโครงการให้เราได้ชมกันด้วยนะ ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น ก่อนจะไปชมบ้านจริงๆค่ะ
บรรยากาศสระว่ายน้ำของโครงการ
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือ แยกโซนเด็กไว้เรียบร้อย ตัวสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่มีความยาวมากกว่า 50 เมตร เทียบเท่าขนาดของสระว่ายน้ำ Olympic เลย ซึ่งหาได้ยากนะ เพราะโครงการทั่วๆไปมักมีสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic เท่านั้น สระว่ายน้ำของโครงการนี้จึงตอบโจทย์คนที่ชอบว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังเลยแหละ ลูกบ้านสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง จึงเหมาะมาใช้บริการช่วงเย็นๆ เพื่อไม่ให้แดดร้อนจนเกินไปนะ
โซนที่เป็นน้ำตื้นมีเก้าอี้แบบเอนนอนอยู่ด้วย ลูกบ้านมานั่งผ่อนคลายสบายๆได้เลย เรามองว่าข้อดีอีกอย่างคือ ผู้ปกครองสามารถมาเฝ้าดูลูกหลานที่มาเล่นน้ำได้อย่างใกล้ชิดด้วย
ริมสระว่ายน้ำมีเก้าอี้สำหรับพักผ่อนอยู่ด้วย ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวสระว่ายน้ำไปเพลินๆได้ด้วย
ส่วนด้านหลังอาคาร Clubhouse จะมีทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังโซนพักอาศัยได้เลย ลูกบ้านที่อยู่ใกล้ Clubhouse จึงเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกมากๆเลย
ห้องน้ำส่วนกลางของโครงการ
ห้องน้ำส่วนกลางมีทั้งห้องสุขา 2 ห้องและห้องอาบน้ำอีก 1 ห้อง ภายในห้องน้ำยังมี Locker ให้เรามาเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวเวลาไปใช้งานส่วนกลางด้วย เราชอบที่โครงการออกแบบให้มี Sky Light ภายในห้องน้ำ ทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัดเวลาเข้ามาใช้งาน
อาคารส่วนกลางอีกหนึ่งอาคารอยู่ใกล้กับสวนส่วนกลาง มีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนอีกมุมด้วยนะ เรามานั่งสูดอากาศรับลมได้สบายๆ
พื้นที่แรกเป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ ใช้เป็นพื้นที่นั่งพบปะพูดคุยกันได้ หรือใครที่มารอสมาชิกในครอบครัวออกกำลังกายก็มานั่งมุมนี้ได้นะ
บรรยากาศภายในฟิตเนส
อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นฟิตเนสขนาดใหญ่พอที่จะรองรับลูกบ้าน 73 ยูนิต ภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซน Cardio และ Weight Training มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน โครงการจัดวางเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ไว้ริมหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง
เราชอบที่โครงการแอบใส่ความเป็น Entertainment ภายในห้องออกกำลังกายมาด้วย เพราะภายในห้องมีโต๊ะพลูให้ ใครที่เป็นสายชิลๆ ไม่ชอบออกกำลังกายหนักๆก็มาเล่นพลูคลายเครียดได้
ถัดจากโซนสระว่ายน้ำและฟิตเนสจะเป็นสวนส่วนกลางที่มีการลดระดับลงมาจากฟังก์ชันอื่นๆ ทำให้เป็นสัดส่วนชัดเจน เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นลานกิจกรรม เช่น เล่นฟุตบอล , พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น
สำหรับบ้านในโครงการจะมีแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกคือบ้านที่หันหน้าเข้าสวนหรือพื้นที่ส่วนกลาง บ้านโซนนี้จะอยู่ติดถนนหลัก และได้ Benefit ในเรื่องของวิวหน้าบ้าน นอกจากนี้ยังไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามจึงได้ความเป็นส่วนตัวด้วย
โครงการออกแบบให้มี Park Strip คั่นกลางทุก 2 ยูนิต ทำให้บ้านยูนิตอื่นๆเป็นแปลงมุมหมดเลย ทำให้รู้สึกโล่งและไม่อึดอัด
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ขนาดความยาวกว่า 50 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- แบ่งสระเด็กลึก 0.55 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่ และ Pool Terrace
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด
- สนามฟุตบอล
- สนามพัตกอล์ฟ
- สนามบาสเกตบอล
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3.6 เมตร (ส่วนติดคลองสาธารณะ สูง 2.80 เมตร / พื้นที่บางส่วนที่ติดกับพื้นที่ข้างเคียง ต่อด้วยระแนงอะลูมิเนียมสูง 2.00-3.40 เมตร)
- ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- ระบบอ่านป้ายทะเบียน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
- เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
แบบบ้าน
Highlight
- ได้พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นเยอะที่สุด บนที่ดินเริ่มต้นผืนใหญ่ที่สุด : ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 716 ตารางเมตร ในขณะที่โครงการรอบข้างมักเริ่มต้นที่ 400 กว่าไปจนถึง 500 ตารางเมตร ส่วนที่ดินเริ่มต้น 120 ตารางเมตร ก็นับว่าได้ที่ดินเริ่มต้นใหญ่ที่สุด เช่นเดียวกัน
- มีลิฟต์ให้ตั้งแต่ Type เริ่มต้น : โครงการมีลิฟต์ภายในตัวบ้านมาให้ทุกยูนิต ใช้ขึ้น-ลงบ้านได้สะดวก
- ทุกห้องนอนมีจุดเด่น : ห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่และมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตอบโจทย์คนแต่ละสไตล์
- มี Glass House ทุกยูนิต : อยู่บริเวณชั้น 2 เป็น Highlight ของบ้านเลย ใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้
บ้านในโครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอย 716 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 68 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มีราคาใกล้เคียงกัน มักเริ่มต้นที่ 400 – 500 ตารางเมตรเท่านั้น โครงการนี้จึงถือว่าได้พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นมากที่สุดเลย เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะๆ รองรับครอบครัวขยายที่มีจำนวนสมาชิก 5-8 คน
ถึงแม้ว่าผังภายในบ้านจะมีรูปแบบเดียว แต่ความพิเศษคือภายนอกตัวบ้านจะมีโทนสีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้
แบบบ้าน Chalk
Chalk บ้านเดี่ยว 3 ชั้นเน้นโทนสีขาว ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 716 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 Glass House / 1 ห้องแม่บ้าน
Dust บ้านเดี่ยว 3 ชั้นเน้นโทนสีเบจ ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 716 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 Glass House / 1 ห้องแม่บ้าน
Clay บ้านเดี่ยว 3 ชั้นเน้นโทนสีเทา ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 716 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 Glass House / 1 ห้องแม่บ้าน
สรุปวัสดุภายในบ้าน
- โครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก (Precast)
- หลังคา Lean To และ Flat Slab บางส่วนที่เป็นจุด Service
- ผนังฉาบเรียบทาสี
- ผนังตกแต่งภายนอกอลูมิเนียมลายไม้ และแผ่น Clay Veneer
- ผนังตกแต่งภายนอกกระเบื้องลายหิน
- ประตูรั้วรางเลื่อน อลูมิเนียมฉลุ พร้อมติดตั้งมอเตอร์เปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ
- ที่จอดรถแบบ On Beam โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน ลงเข็มถึงชายคา
- ประตูหลัก Tostem บาน Giesta พร้อม Digital Door Lock
- ประตูหน้าต่างอลูมิเนียมของ Tostem
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน 1.2 x 1.2 m. , พื้น uvspc หนา 12 mm.
- พื้นชั้น 2,3 : พื้น uvspc หนา 12 mm.
- พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน 1.2 x 1.2 m.
- บันไดโครงสร้างเหล็ก
- กล้องวงจรปิดภายนอกบ้าน 3 จุด
- Video Door Phone 1 จุด
- แอร์ฝังฝ้า 8 เครื่อง Wall Type 1 เครื่อง
- เตรียมระบบรองรับ EV Charger 1 เครื่อง
- ระบบ AirPlus2 เติมอากาศใหม่จากภายนอกบ้าน ที่กรองฝุ่นpm 2.5
- ติดตั้ง Solar Cell ขนาด 3.75 kw ระบบ Micro inverter
- ลิฟต์ MITSUBISHI ระบบสลิง รับน้ำหนัก 450 kg.
- สุขภัณฑ์ Kasch , Cotto
- ระบบไฟ 3 เฟส 50(150)
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
Clay
บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 716 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 Glass House / 1 ห้องแม่บ้าน
บ้านหลังนี้ออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัว หากเราสังเกตจะเห็นว่าด้านหน้าบ้านเน้นเป็นผนังทึบ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับสมาชิกในบ้าน ทำให้คนภายนอกที่เดินผ่านไป-มาหน้าบ้าน จะมองเข้าไปไม่เห็นพื้นที่ส่วนตัวของคนในบ้านเลย โครงการออกแบบให้ช่องเปิดของตัวบ้านเน้นมาทาง Courtyard ทำให้ได้รับแสงสว่างอย่างทั่วถึงและคนในบ้านไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ
แปลนชั้น 1
ชั้น 1 : หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 4 คันสบายๆ มีชายคาคลุมเต็มคัน ช่วยรักษารถได้ดีและเราไม่ต้องตากแดดลมฝนเพื่อเข้าบ้าน พื้นที่ Courtyard สามารถจอดรถได้อีก 2 คัน ในกรณีที่ครอบครัวมีรถส่วนตัวเยอะ ส่วนทางเข้า-ออกบ้านหลักๆจะมี 2 ทาง ประตูแรกอยู่ด้านข้างที่จอดรถ ซึ่งเจ้าของบ้านจะใช้ทางเข้านี้เป็นหลักค่ะ ส่วนประตูรองอยู่ข้างบ้าน เชื่อมต่อกับ Laundry Area และส่วนของแม่บ้าน แม่บ้านจะใช้ประตูนี้เป็นหลัก เพื่อไม่ให้รบกวนเจ้าของบ้านค่ะ
ชั้นแรกของบ้านแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกคือโถงรับแขกอยู่ด้านหน้าบ้าน เป็นพื้นที่รองรับแขกเล็กๆ สำหรับต้อนรับแขกที่เรา ไม่สะดวกให้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน ส่วนโซนที่ 2 คือ Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่ทานอาหารไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อ Courtyard ได้อีกด้วย บ้านหลังนี้ออกแบบให้หน้าต่างบานเลื่อนสูงตั้งแต่พื้นไปถึงฝ้า ใหญ่เท่ากับประตูเลย ทำให้เราสามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้ บ้านหลังนี้ติดตั้งลิฟต์มาให้เรียบร้อย ใช้ขึ้น-ลงได้สะดวก ส่วนโซนสุดท้ายอยู่ด้านข้างบ้านเป็นพื้นที่ Service ประกอบไปด้วยห้องแม่บ้าน , Laundry Area
ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกภายในบ้าน คือห้องนอนรอง 2 ห้อง ทุกห้องนอนของบ้านหลังนี้มีห้องน้ำภายในตัว และมีจุดเด่นของตัวเอง ห้องนอนรอง 1 เชื่อมต่อกับ Collection Corridor ที่สามารถมองเห็นได้จากพื้นที่นั่งเล่นชั้น 1 จึงเหมาะกับคนที่มีของสะสม ต้องการโชว์ให้แขกที่เยี่ยมเยือนได้เห็น ส่วนห้องนอนรอง 2 อยู่ฝั่งหน้าบ้าน เชื่อมต่อไปยัง Glass House ได้ สามารถจัดเป็นห้องสังสรรค์หรือห้องทำงานอดิเรกได้
ชั้น 3 : เป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวเช่นกัน ประกอบไปด้วย Master Bedroom ที่มี Walk-in Closet , ห้องนอนรอง 3 ที่ออกแบบเป็นเหมือนห้อง Loft ในคอนโด โครงการออกแบบให้ห้องนอนทุกห้องได้วิว Courtyard ด้วย ทำให้รู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้นไป
ประตูรั้วติดตั้งระบบเลื่อนอัตโนมัติ
ประตูรั้วเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน 2 ตอนพร้อมฉลุลายจุดไว้ ช่วยพรางสายตาจากคนภายนอก เจ้าของบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว
ประตูเล็กสำหรับเดินเข้า-ออกบ้าน
บริเวณหน้าบ้านมีประตูเล็กพร้อมติดตั้ง Video Door Phone ไว้ให้ เวลามีแขกมาติดต่อก็สามารถดูและพูดคุยกันผ่าน Video Door Phone ให้แน่ใจก่อนเชิญเข้าบ้านค่ะ
พื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถในร่มได้ 4 คัน
พื้นที่จอดรถในบ้านกว้างประมาณ 10.8 เมตร สามารถจอดรถได้ 4 คันเรียงกันเลย ไม่มีเสาคั่นกลางเหมือนโครงการทั่วไป จึงทำให้จอดรถได้สบายๆ ขึ้น-ลงรถได้สะดวก โดยมีชายคาคลุมเต็มคัน ไม่มีส่วนไหนของรถที่ต้องโดนแดดฝนเลยค่ะ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้อง 60×120 ซม. สีเทาอ่อน ดูเข้ากับตัวบ้าน โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้านจนถึงบริเวณชายคาเลยนะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวของบ้าน
โครงการเตรียมระบบไว้ให้เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง ในบริเวณที่จอดรถ
บรรยากาศบริเวณ Courtyard
ด้านหลังที่จอดรถเป็น Courtyard ที่สามารถเปิดประตูเหล็กรางเลื่อน เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 2 เข้าหากันได้ พื้นที่บริเวณนี้เหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือนั่งทานอาหารภายนอกบ้าน โครงการตกแต่งพื้นที่ด้วยเหล็ก Wide Flange พร้อมให้ต้นไม้กลาง Courtyard มาเหมือนบ้านตัวอย่าง ช่วยให้พื้นที่ตรงนี้สดชื่นและมีมิติมากขึ้น
ไอเดียทำสระว่ายน้ำข้างบ้าน
เนื่องจากบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะได้แปลงมุมทุกหลัง จึงมีที่ดินค่อนข้างใหญ่ ข้างบ้านมีพื้นที่ให้จัดเป็นสวนพร้อมมุมพักผ่อนได้เลย หรือใครชอบว่ายน้ำ , แช่น้ำจะทำเป็นสระว่ายน้ำเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกัน
ประตูหลักมีทางเดินเชื่อมกับประตูเล็กหน้าบ้าน บริเวณประตูมีชายคายื่นออกมาเลยตัวพื้นหน้าบ้าน ทำให้ช่วยกันแดดฝนให้สาดเข้ามาถึงบริเวณประตูได้น้อยลงค่ะ ชานหน้าบ้านมีการยกระดับขึ้นมาจากสวนหน้าบ้าน 2 ระดับ ช่วยกันฝุ่นและน้ำไหนย้อน
ประตูหลักหน้าบ้านเป็นประตูอลูมิเนียมของ Tostem บาน Giesta ซึ่งเป็นรุ่น Top ของแบรนด์เลยนะ จับแล้วรู้สึกถึงความหนักแน่นแข็งแรงคงทน พร้อม Digital Door Lock 5 ระบบ คือแอพพลิเคชั่น, รีโมทคอนโทรล, คีย์การ์ด, คีย์แท็กและคีย์แมนนวล
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงของตัวบ้าน มีความสูงฝ้าประมาณ 3.2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน 120×120 ซม. สีครีม ซึ่งเป็นขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป มองแล้วดูสบายตาดีค่ะ บ้านหลังนี้จะติดตั้ง Magnetic Sensor ไว้ทุกชั้น เสริมความปลอดภัยให้กับคนในบ้าน
บริเวณใกล้ๆกับประตูมี Control pad ไว้คอยดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ตามประตูทางเข้าบ้านได้ด้วย
ห้องเก็บรองเท้า
โครงการจัดให้ห้องเก็บรองเท้าอยู่ใกล้ๆกับประตูหลัก ทำให้เราหยิบและเก็บรองเท้าได้ง่ายๆเวลากลับมาถึงบ้าน หรือออกไปข้างนอก ภายในห้องมีขนาดใหญ่ทีเดียว เรามองว่าใช้เป็นห้องเก็บของได้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์กีฬา , หรือของใช้ต่างๆ
ห้องเก็บของและแผงควบคุมไฟ
อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องเก็บของและแผงควบคุมไฟ ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ เรามองว่าเวลาไฟฟ้าภายในบ้านมีปัญหา แล้วเรียกช่างมาเซอร์วิสก็ง่ายค่ะ เพราะแผงควบคุมไฟอยู่ใกล้ทางเข้าบ้าน ช่างจะได้ไม่ต้องเข้าไปในตัวบ้านช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้เจ้าของบ้านด้วยค่ะ
ทางเดินไปยัง Common Area
ระหว่างทางเดินไป Common Area จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ถูกแยกไว้ชัดเจน เพราะการลดระดับพื้นที่บริเวณนี้ช่วยให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น พื้นที่อเนกประสงค์ถูกจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนและรองรับแขก สำหรับรับแขกที่เราไม่อยากให้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวมากนัก เช่น เลขาเอาเอกสารต่างๆมาให้เซ็นต์
Common Area มีประตูบานเลื่อนกั้นไว้ เพื่อความเป็นสัดส่วน แล้วยังช่วยให้เจ้าของบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ถูกรบกวนจากแม่บ้านอีกด้วย เพราะภายในจะมีแต่ฟังก์ชันของเจ้าของบ้านเท่านั้น แต่ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นประตูกระจกนะคะ
Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry Area เข้าด้วยกันไว้ที่โซนหลังบ้าน ซึ่งเป็นโซนที่สมาชิกในบ้านมักจะใช้เวลามากที่สุด ได้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าบ้าน
พื้นที่นั่งเล่น
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นเป็น Double Volume สูงประมาณ 7 เมตร จึงดูโล่งโปร่งเป็นพิเศษ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดใหญ่พอจะวางโซฟาเป็นรูปตัว L พร้อมอาร์มแชร์ทั้ง 2 ฝั่งของโซฟา มุมนี้เป็นมุมพักผ่อนหลักของบ้าน หรือใช้ต้อนรับแขกคนสนิทได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้เราวางโต๊ะกลางสำหรับวางน้ำและขนมขณะนั่งดูทีวีด้วย แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 75 นิ้ว ขึ้นไป เพื่อการรับชมที่คมชัด
ประตูเชื่อมต่อกับ Courtyard
ประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับ Courtyard เป็นกระจกบานใหญ่ ช่วยให้แสงเข้ามาได้อย่างทั่วถึง เราชอบที่กระจกเป็นแบบ One-way mirror ทำให้คนด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็นคนในบ้าน แต่คนที่อยู่ในตัวบ้านมองออกไปเห็นบรรยากาศภายนอกชัดเจน ประตูหน้าต่างของบ้านหลังนี้ใช้ของ Tostem ทั้งหลังเลยนะ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคงทนและแข็งแรง อย่างบริเวณประตูกระจกจะใช้เป็นรุ่น Grants ซึ่งเป็นรุ่น Top ของแบรนด์เลย
ข้างๆพื้นที่นั่งเล่นเป็น Courtyard เราสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อพื้นที่เข้าหากันได้ เวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์ริมสวนค่ะ
ประตูด้านหลังเชื่อมต่อกับสวนด้านหลัง
ประตูอีกฝั่งหนึ่งก็สามารถเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้านได้เช่นกัน
ด้านหลังบ้านบริเวณติดกับพื้นที่นั่งเล่น มีพื้นที่ว่างพอทำเป็นมุมพักผ่อนหรือสวนได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำสวนปลูกต้นไม้เลยค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหาร รองรับโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัด มีพื้นเหลือรอบโต๊ะให้เดินผ่านไปมาได้สะดวก นอกจากนี้พื้นที่รับประทานอาหารยังเชื่อมต่อกับ Pantry Area เราสามารถเตรียมอาหาร เสิร์ฟอาหารได้สะดวก ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง ตัวพื้นเป็น UVSPC หนา 12 mm. แข็งแรงคงทนและทนความชื้นได้มากกว่า SPC ทั่วไป
Pantry Area
สำหรับ Pantry Area มีขนาดกว้างพอให้คนมาเตรียมอาหาร 2-3 คนพร้อมๆกันได้เลย โครงการจะทำ Built-in บริเวณ Pantry Areaให้ครบแบบบ้านตัวอย่างเลยนะ
โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ Island ไว้ให้
โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ Island พร้อมเตาไฟฟ้า , ที่ดูดควันแบบซ่อนในเคาน์เตอร์ , ตู้เก็บไวน์และตู้เก็บของด้านล่างมาให้ บนเคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้สะดวก
โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ไว้ให้
เคาน์เตอร์ด้านข้างมีตู้เก็บของด้านใต้ และซิงค์ล้างจานมาให้ พร้อมมีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่บริเวณนั้นทำให้เราเปิดระบายอากาศขณะล้างจานหรือวัตถุดิบได้
โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ตู้เก็บของพร้อมเครื่องล้างจานไว้ให้
ด้านข้างซิงค์ล้างจานมีตู้เก็บของพร้อมเครื่องล้างจานมาให้ เวลาที่แม่บ้านไม่อยู่ เจ้าของบ้านก็ใช้เครื่องล้างจานได้ ไม่ต้องล้างเองเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้าม Island เป็นแนวยาว
เคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้าม Island เป็นแนวยาวพร้อม Built-in มีตู้เก็บของบน-ล่างมาให้ตลอดแนว เก็บของได้เยอะทีเดียว รวมถึงให้เตาอบของ Teka สามารถใช้งานได้เลย ส่วนบนเคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้สะดวกเช่นกัน
Powder Room
ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room อยู่ใกล้ Common Area สะดวกต่อการใช้งานเวลาอยู่ในพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สมาชิกในบ้านใช้เวลาอยู่มากที่สุด เหมาะเป็นห้องน้ำสำหรับรับรองแขกที่ไม่เน้นส่วนอาบน้ำ มีเฉพาะโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก Kasch และอ่างล้างมือเรซิ่น ดูเก๋ดีค่ะ เราชอบที่ห้องน้ำทุกห้องของบ้านหลังนี้จะติดกับ Pocket Garden เล็กๆ ทำให้แสงเข้ามาภายในตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง แต่ก็ยังใช้กระจกฝ้าขุ่นเพื่อพรางสายตาจากคนที่เดินผ่านไปมา ทำให้คนที่มาใช้งานห้องน้ำไม่เคอะเขินค่ะ
ห้องครัวมีขนาดใหญ่ ภายในมี Built-in เคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อย พร้อมเหลือพื้นที่ให้ยืนทำอาหารอีกกว้างพอสมควร พอให้สมาชิกในบ้านสามารถมาช่วยกันทำครัวได้ 3-4 คนแบบสบายๆเลยค่ะ
โครงการ Built-in ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์มาให้
โครงการ Built-in ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์มาให้ เก็บของได้เยอะทีเดียว
เคาน์เตอร์ภายในห้องครัว
Top เคาน์เตอร์เป็นหินแท้ทำความสะอาดได้ง่าย แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนทำอาหาร , ส่วนล้างจานและส่วนเตรียมอาหาร ทำให้เราประกอบอาหารได้สะดวกมากเลยนะ
ประตูห้องครัวมีชั้นมุ้งลวดอยู่ด้วย เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ ขณะที่ยังปิดประตูอยู่ ช่วยกันไม่ให้แมลง , ยุงเข้ามาภายในบ้าน
Laundry Area และห้องน้ำแม่บ้าน
ติดกับห้องครัวเป็นโซนเซอร์วิส สำหรับ Laundry Area ที่วางเครื่องซักผ้ารวมถึงเครื่องอบผ้า นอกจากนี้ยังมีห้องนอนแม่บ้านที่มีขนาดใหญ่พอจะวางเตียง 2 ชั้นได้เลยนะ พร้อมกับมีห้องน้ำแม่บ้านให้ใช้งาน แม่บ้านจึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่แค่โซนนี้ ไม่ไปรบกวนการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้านเลย
ลิฟต์ในตัวบ้าน
ลิฟต์ภายในบ้านเป็นของ Mitsubishi ระบบสลิง รองรับได้ 6 คนหรือ 450 กิโลกรัม ภายในลิฟต์สามารถเข็นวีลแชร์เข้ามาได้พอดีๆ
บันไดโครงสร้างเหล็ก
บันไดบ้านเป็นโครงสร้างเหล็ก ที่มีการออกแบบโครงสร้างมาอย่างดี ทำให้เราเดินขึ้น-ลงได้สะดวก ไม่เกิดเสียงดังหรือสั่นสะเทือนเหมือนกับบันไดเหล็กทั่วๆไป ตัวบันไดมีขนาดกว้างประมาณ 1.3 เมตร คนเดินสวนกันได้สบายๆ ปิดผิวด้วย UVSPC พร้อมราวจับตลอดทางใช้งานได้สะดวก
ชั้น 2
บันไดอยู่ติดกับช่องเปิดขนาดใหญ่ ทำให้โถงทางเดินชั้น 2 ดูโปร่งโล่งและได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 อยู่ใกล้กับบันไดมากที่สุด บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องเล่นเกมส์ แต่ความจริงแล้วห้องนี้มีขนาดประมาณ 6.2×4.65 เมตร หากจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเยอะ ฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็นกระจกบานใหญ่ที่มองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นพอดีเลย หากเราต้องการความเป็นส่วนตัว แนะนำให้ติดตั้งม่านไฟฟ้าแบบบ้านตัวอย่างนะคะ
ห้องนอนนี้เชื่อมต่อออกไปยัง Collection Corridor
Collection Corridor
Collection Corridor เป็นพื้นที่สำหรับวางโชว์ของสะสมต่างๆ เพราะพื้นที่ตรงนี้จะสามารถเห็นได้จากพื้นที่นั่งเล่นด้านล่าง โดยที่ไม่ต้องเดินขึ้นมายังห้องนี้เลย ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่มีของสะสม หรือมีผลงานต่างๆที่อยากให้แขกชื่นชม เช่น งานศิลปะ , ภาพถ่ายต่างๆ
จาก Collection Corridor มองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างด้วย
สำหรับห้องนอนรอง 1 มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ด้วยค่ะ อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวต่อได้เลย
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน โครงการให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และกระจกเงาบานใหญ่ นอกจากนี้ยังให้ชุดสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบครัน ใช้งานได้สะดวก พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.25 x 1.5 เมตร หมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ
ติดกับห้องน้ำเป็น Pocket Garden ที่มีผนังก่ออีกชั้นบังสายตาผู้คนอยู่ ทำให้คนที่มาใช้งานห้องน้ำได้ความเป็นส่วนตัวพร้อมกับได้แสงธรรมชาติในเวลาเดียวกัน
ชั้น 2 มี Powder Room อีก 1 ห้อง บริเวณใกล้กับบันได เพื่อรองรับแขกที่มาใช้งาน เวลาเราจัดงานเลี้ยงที่ Glass House จะได้มาใช้งานได้สะดวก ภายในห้องน้ำมีการจัดผังและให้ชุดสุขภัณฑ์มาเหมือน Powder Room ชั้นล่างเลยนะ
ประตูเชื่อมต่อไปยัง Glass House
บริเวณ Terrace ชั้น 2 มี Glass House อยู่ ซึ่งหาได้ยากนะคะ เพราะปกติเเล้วโครงการทั่วไปจะไม่ค่อยมี Glass House แยกออกมาแบบนี้ หรือไม่ก็อยู่ที่ชั้น 1 มากกว่า แต่การนำ Glass House มาอยู่ชั้น 2 เรามองว่าช่วยให้ได้วิวเปิดโล่งมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์การสร้าง Glass House ที่เป็นกระจกรอบด้านมากกว่านะ
ด้านหน้า Glass House มีพื้นที่ให้จัดเป็นมุมพักผ่อนได้อยู่ เราสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น Semi-Outdoor ได้นะ เราเอางานมานั่งทำหรือมาอ่านหนังสือตรงนี้พร้อมสูดอากาศ รับลมได้สบายๆ
จาก Terrace ชั้น 2 สามารถมองลงไปเห็น Courtyard ด้านล่างด้วยนะ
บรรยากาศภายใน Glass House
ภายใน Glass House มีขนาดใหญ่พอจะทำเป็นห้องสังสรรค์หรือจัดเลี้ยงเล็กๆได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ทำงานก็ได้ เช่น Studio
โครงการติดตั้งกระจก Low-E พร้อมม่านกระจกด้านบน ช่วยสะท้อนความร้อนและบังแดดในเวลากลางวัน ทำให้อากาศภายในไม่ร้อนนัก นอกจากนี้โครงการยังติดตั้งแอร์ให้ด้วยนะ เราจึงสามารถมาใช้งานได้ทั้งกลางวัน-กลางคืนเลย
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 อยู่ใกล้กับ Glass House แล้วยังมีประตูเชื่อมต่อหากันด้วย ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบมาใช้งาน Glass House ห้องนี้มีขนาดประมาณ 5.5×4.6 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตหรือมากกว่านั้นก็ได้ อย่างห้องตัวอย่างที่เราเห็นกันอยู่ ใช้เตียงแบบ Customize ประมาณ 8 ฟุตได้ค่ะ แล้วยังเหลือพื้นที่รอบเตียงอีกมาก พอที่จะจัดมุมทำงานหรืออ่านหนังสือเล็กๆ ได้เลย
Walk-in Closet และห้องน้ำ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 อยู่รวมกับ Walk-in Closet แตกต่างกับห้องน้ำอื่นๆเล็กน้อย เพราะส่วนของอ่างล้างหน้าจะอยู่โซนเดียวกับพื้นที่แต่งตัว ทำให้เราแต่งหน้าทาครีมได้สะดวกขึ้น
บริเวณอ่างล้างหน้า
บริเวณอ่างล้างหน้ามี Sky Light อยู่ด้วย จึงได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นแสงที่เหมาะกับการแต่งหน้าแต่งตัวดีนะ
ห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 2
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 มีอุปกรณ์มาให้ครบครันเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ เพียงแต่ส่วนอาบน้ำมีขนาดใหญ่กว่าหน่อย ประมาณ 1.95×1.2 เมตร ถือว่าอาบน้ำได้สะดวกนะ
ชั้น 3
พื้นที่อเนกประสงค์
ฟังก์ชันแรกที่เราจะเจอเมื่อขึ้นมายังชั้น 3 คือพื้นที่อเนกประสงค์ ที่มีความสูงฝ้าถึง 5 เมตร เราคิดว่าสามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อน , ห้องพระ , ห้องทำงาน หรือต่อเติมบันไดขึ้นมาให้เป็นห้อง Loft เพิ่มเติมก็ได้นะ
ทางเข้า Master Bedroom
เมื่อเข้ามายัง Master Bedroom เราจะเจอกับ Mini bar ภายในห้องก่อน ยังไม่เห็นเตียงนอนในทันที เรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะเจ้าของห้องจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ตลอดแนวทางเดินโครงการ Built-in ตู้เก็บของมาให้ ใช้เก็บของได้เยอะแยะเลย ทั้งของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่
บรรยากาศภายใน Master Bedroom
Master Bedroom อยู่ด้านหลังบ้าน แต่ได้รับแสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง ห้องจึงดูสว่าง ภายในห้องสามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและโซนนั่งเล่นได้ สำหรับโซนพักผ่อนสามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมเหลือพื้นที่รอบข้างอีกเป็นเมตร ปลายเตียงสามารถวางสตูลหรือโซฟาไว้นั่งพัก ส่วนโซนพักผ่อนมีความกว้างพอจะวางโซฟา 3-4 ที่นั่งรูปตัว L พร้อมโต๊ะกลางได้ด้วย มุมนี้เหมาะจะติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ประมาณ 75 นิ้ว เพราะมีระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร
ประตูระเบียง
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้แสงเข้ามาถึงห้องนอนได้ทั่วถึง
ระเบียงห้องนอน
Master Bedroom เป็นห้องนอนเดียวที่มีระเบียงขนาด 6×1 เมตร อยู่ภายในตัวห้องนอนเลย เราสามารถเปิดประตูมารับลมสูดอากาศได้
Walk-in Closet
สำหรับ Walk-in Closet โครงการ Buit-in มาให้ครบทุกอย่างทั้งตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง , โต๊ะเครื่องแป้งและ Island
โครงการ Built-in Island เก็บเครื่องประดับมาให้
โครงการ Built-in Island สำหรับเก็บเครื่องประดับและอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรียบร้อย ใช้งานได้สะดวก
Master Bathroom
ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือแบบ His&Her สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คนพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
อ่างอาบน้ำเรซิ่น
ความพิเศษของห้องนี้คือโครงการมีอ่างอาบน้ำเรซิ่นแบบลอยตัวมาให้ด้วย วางอยู่ติดกับกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องน้ำดูสว่างแต่ยังคงความเป็นส่วนตัวเวลาอาบน้ำไว้ได้
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำและสุขาแยกออกเป็นคนละฝั่ง ดูเป็นสัดส่วนและใช้งานได้สะดวก ส่วนอาบน้ำของห้องนี้มีขนาดประมาณ 1.2×1.6 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำไว้เรียบร้อย ส่วนด้านข้างเป็นผนังทึบติดตั้งกระเบื้อง ทำความสะอาดได้ง่ายดี อุปกรณ์อาบน้ำก็พิเศษกว่าห้องอื่นเช่นกัน เพราะได้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower ที่ปรับระดับน้ำได้หลายระดับ โซนนี้มี Sky Light อยู่ด้วย ทำให้ส่วนเปียกแห้งไวขึ้น ช่วยให้ไม่อับชื้นค่ะ
ปิดท้ายด้วยห้องนอนรอง 3 ทีแรกที่เราเดินเข้ามาคิดว่าห้องนี้จะเล็กกว่าห้องอื่นๆ เพราะจัดให้เข้ามาเจอกับ Walk-in Closet ทันที แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เพราะห้องนี้ก็มีดีไม่แพ้ห้องเพื่อนๆที่ชมกันมา
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ให้มาครบครันเหมือนห้องน้ำในห้องนอนรองอื่นๆ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 3
พอเดินมาถึงบริเวณนี้ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ เพราะห้องนอนนี้เป็นห้องฝ้าสูงถึง 5 เมตร ให้อารมณ์คล้ายกับเราอยู่คอนโด 2 ชั้นเลยค่ะ ในส่วนของชั้นแรก มีขนาดใหญ่พอจะวางเตียง 6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เราจัดเป็นมุมทำงานหรืออ่านหนังสือได้อีก
บันไดเหล็กขึ้นไปชั้นบน ออกแบบให้บางเบา ดูสบายตาไม่รู้สึกอึดอัด
บรรยากาศพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบน
พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนมีขนาดประมาณใหญ่พอสมควร สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือมุมอ่านหนังสือได้ด้วย พร้อมมีราวกันตกให้ หากใครชอบความเป็นสัดส่วนแนะนำให้ต่อเติมฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมนะ
ราคา
VIVE New Krungthep Kreetha ( วีเว่ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ) ราคา ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2568
- Chalk บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 716 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 Glass House / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 68 ล้านบาท - ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ตั้งอยู่ติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เลี้ยวมาจากถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่มาแค่ 900 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้มีทั้งฝั่งรามคำแหงและกรุงเทพกรีฑา อย่าง Sammakorn Place รามคำแหง , Makro Food Service รามคำแหง , Nirvana PORCH และ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ทำให้ลูกบ้านเดินทางจับจ่ายซื้อของกินของใช้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลโครงการ คือรายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ในระยะ 2-3 กิโลเมตรมีทั้ง Ascot International School Bangkok , Heathfield International School และ Wellington College International School Bangkok ผู้ปกครองจึงไปรับ-ส่งลูกหลานได้ไม่ยาก ในเรื่องของการเดินทางก็สะดวกไม่แพ้กัน เพราะโครงการใกล้ทั้งวงแหวนกาญจนาภิเษก , ทางด่วนมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่และทางด่วนศรีรัช ใช้เดินทางไปยังโซนบางนา , พระราม 9 และชลบุรีได้
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการนี้ถือว่ามีระดับความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงการทั่วไป เข้า-ออกโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ส่วนตัวบ้านติดตั้ง Digital Door Lock ไว้ที่ประตูหลัก พร้อมมีกล้องวงจรปิดทุกทางเข้า-ออกตัวบ้าน นอกจากนี้ยังมี Magnetic Sensor ทุกชั้น
การออกแบบโครงการ : โครงการวางผังให้ซุ้มประตูโครงการอยู่กึ่งกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านทุกโซนเข้าถึงตัวบ้านได้ง่าย พื้นที่ส่วนกลางอยู่กลางโครงการ ลูกบ้านออกมาใช้งานได้สะดวก และสามารถมองเห็นชัดเวลาเข้ามาจากซุ้มประตู สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับโครงการ โครงการกระจายส่วนกลางไว้หลายจุด ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : บ้านในโครงการมี 1 แบบแต่ออกแบบ Facade แตกต่างกันออกไป ทำให้บ้านแต่ละแบบมีมิติมากขึ้น บ้านทุกหลังจอดรถได้ 4 คัน และมากสุด 6 คัน บ้านในโครงการออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัว วางผังบ้านเป็นรูปตัว C พร้อมเน้นให้ทุกฟังก์ชันหันเข้าหา Courtyard กลางบ้าน ส่วนหน้าบ้านจะเน้นเป็นผนังทึบ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เทียบดูแล้วบ้านของโครงการมีที่ดินเริ่มต้นและพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นมากกว่าโครงการรอบข้าง อีกหนึ่งจุดเด่นคือมี Glass House อยู่ชั้น 2 แล้วเราก็ชอบที่ห้องนอนทุกห้องมีจุดเด่นของตัวเอง เช่น เป็นห้องนอนฝ้าสูง , ห้องนอนเชื่อมต่อกับ Collection Corridor
วัสดุ : โครงสร้างบ้านแบบ Precast ที่จอดรถมีการลงเสาเข็มให้เท่าตัวบ้าน ป้องกันการทรุดตัวของบ้าน พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน 1.2 x 1.2 m. ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่กว่ามาตรฐาน ทำให้รอยต่อน้อยลง มองดูสบายตา ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นและพื้นชั้นอื่นๆ เป็น UVSPC หนา 12 mm. ทนความชื้นและเเข็งกว่า SPC ทั่วไปห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ที่มีชื่อเสียง คงทน เช่น Kasch พร้อมให้เครื่องทำน้ำอุ่นและสุขภัณฑ์อัตโนมัติทุกห้องน้ำ ส่วนประตูหน้าต่างก็ใช้ของ Tostem ทั้งหลังเลยค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ภายในโครงการได้พื้นที่สวนหย่อม 2 จุด ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย โดยรอบๆยังมีการแทรกพื้นที่สีเขียวมาให้อีกหลายจุด ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นให้โครงการ
สาธารณูปโภค : Clubhouse ออกแบบมาสวยงาม น่าใช้งาน มีส่วนกลางหลากหลายและหาได้ยาก เช่น สนามพัตกอล์ฟ , สนามบาสเกตบอล พื้นที่ส่วนกลางแต่ละฟังก์ชันขนาดใหญ่พอที่จะรองรับลูกบ้าน 73 ยูนิต สระว่ายน้ำมีความยาวเท่าสระ Olympic ซึ่งไม่ได้มีในทุกโครงการ เทียบกับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ ตร.ว. ก็ถือว่าสมเหตุสมผล เพราะแชรืกับลุกบ้านไม่เยอะ เพียง 73 ยูนิตเท่านั้น
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 68 ล้านบาท, 20 สิงหาคม 2568
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้โรงเรียนนานาชาติ
- ความปลอดภัย 8/10 – สแกนป้ายทะเบียน , CCTV ทั้งโครงการและตัวบ้าน , ตัวบ้านมี Magnetic Sensor ทั้งหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบบ้านสวย เน้นความเป็นส่วนตัว มี Glass House และทุกห้องนอนมีจุดเด่น
- วัสดุ 7.5/10 – ให้วัสดุมาดี ตอบโจทย์การใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีพื้นที่สีเขียวมาก และกระจายไว้หลายจุด
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีฟังก์ชันหลากหลายและหายาก
- 8.05 / 10.00
VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เหมาะกับใคร
โครงการ VIVE กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ใกล้โรงเรียนนานาชาติทั้ง Ascot International School Bangkok , Heathfield International School , Wellington College International School Bangkok ชอบโครงการที่มี Facility หลากหลาย มีฟังก์ชันหายาก เช่น สนามพัตกอล์ฟ มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะ แต่เน้นความเป็นส่วนตัว ชอบห้องนอนใหญ่ มี Glass House รองรับไลฟืสไตล์ที่ชอบปาร์ตี้ในบ้าน เหมาะกับครอบครัวพ่อแม่ลูก 4-6 คน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 68 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 476,000 บาท
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
- Malton Gate
- Grand Bangkok Boulevard พระราม9-กรุงเทพกรีฑา
- Nirvana Absolute กรุงเทพกรีฑา
- BuGaan กรุงเทพกรีฑา
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่