โครงการเดียวบนทำเลที่ให้ความคุ้มแบบ “คูณ 2” แต่ราคาไม่ Double !! Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) ออกแบบเน้นฟังก์ชันแบบ Double มีทั้ง Double Master Bedroom ที่ได้อ่างอาบน้ำทั้ง 2 ห้อง รวมถึง Double Volume พื้นที่ฝ้าเพดานสูงตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้น ในราคาพอๆกับเพื่อน เริ่มต้น 23-32 ล้านบาท บอกเลยว่าไม่มีที่ไหนให้แบบนี้แล้ว

เราสังเกตมาหลายๆโครงการแล้วนะ ถ้ามีคำว่า “ครั้งแรก” อย่างบุกทำเลใหม่ครั้งแรกหรือเป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ใหม่เหมือนกับ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) ก็จะจัดมาให้แบบเกินคุ้ม เพราะทั้งการออกแบบและฟังก์ชันแตกต่างจากเจ้าอื่นแบบเห็นได้ชัด

โดดเด่นด้วย “ฟังก์ชันแบบ Double” ซึ่ง Double Volume สูง 6 เมตร, Double Foyer และ Double Living Space ถือเป็นฟังก์ชันที่มีในโครงการอื่นๆบนทำเลนะ แต่ Double Master Bedroom ที่ได้อ่างอาบน้ำทั้ง 2 ห้องเนี่ย ยังไม่มีให้เห็นเลย ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้กลายเป็น Highlight โครงการ น่าจะถูกใจคนที่ชอบความใหญ่ ความคุ้มเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเป็นบ้านเดี่ยวที่ดิน 100+ ตร.วา รองรับผู้สูงอายุได้ มีเพื่อนบ้านน้อยเพียง 58 ยูนิต พร้อมพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน แถมที่ตั้งโครงการก็อยู่ติดถนนใหญ่ บางแวก ไปเดินเล่น-ช้อปปิ้งที่โซนราชพฤกษ์ได้ง่ายๆ ทางโครงการแอบบอกด้วยว่านี่เป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่ติดถนนบางแวก ช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 1 จนถึงถนนกาญจนาภิเษกแล้วนะ ซึ่งของแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ อยากรู้ว่าคุ้มยังไง มีฟังก์ชันอะไรที่ไม่มีที่อื่นอีก งั้นตามไปอ่านกันต่อเลย

ข้อมูลโครงการ

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1)  ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2568

 ชื่อโครงการ   Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   HIGH-LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนบางแวก แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160
 ที่ดิน 27-3-46.9 ไร่
 จำนวนยูนิต 58 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Sierra (เซร่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 23 ล้านบาท
  • Monté (มอนเต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท
  • Lé Ciel (เรอซีแอล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 438 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท

 PRESALE     วันที่ 16-17 ส.ค. 2568
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ       100,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   พ.ย. 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ธ.ค. 2570
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร   091-949-0000

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.74279533154908, 100.41648709999998
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ตั้งอยู่ติดถนนบางแวก เดินทางได้สะดวก แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่บนทำเลที่มักตั้งอยู่ภายในซอย
  • ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกและทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี มีระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
  • มีรถไฟฟ้าหลายสายเป็นตัวเลือกในการเดินทาง ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีภาษีเจริญและรถไฟฟ้าในอนาคต สายสีเขียวเข้ม สถานีบางเชือกหนัง ทำให้เดินทางบนทำเลได้ง่ายขึ้น
  • ความอุดมสมบูรณ์อิงมาโซนราชพฤกษ์ ที่มีทั้ง The Circle ราชพฤกษ์ และ Food Villa ราชพฤกษ์ แต่ใกล้ๆโครงการก็จะมี The Mall Lifestore บางแค และ The Paseo Park กาญจนาภิเษกด้วย

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) ตั้งอยู่ติดถนนบางแวก อยู่ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งตัวโครงการจะอิงมาฝั่งถนนกาญจนาภิเษกมากกว่า มีระยะห่างเพียง 1.0 กิโลเมตร

สำหรับถนนบางแวกเส้นนี้ยาวเชื่อมจากถนนจรัญสนิทวงศ์ไปสิ้นสุดที่ถนนทวีวัฒนา โดยใช้เป็นเส้นทางลัดระหว่างถนนกาญจนาภิเษกกับถนนจรัญสนิทวงศ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดบริเวณถนนเพชรเกษมนั่นเอง รวมถึงยังเดินทางเชื่อมต่อไปยังพุทธมณฑลสาย 1-4, ถนนราชพฤกษ์และถนนบรมราชชนนีได้ง่าย อีกทั้งมีถนนตัดใหม่อย่างพรานนก – พุทธมณฑล สาย 4 ใช้เดินทางไปราชพฤกษ์-ศิริราชได้สะดวกเลย

ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น MRT ภาษีเจริญ มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.7 กิโลเมตร แต่ในอนาคตมีแผนงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ทำให้สถานีบางเชือกหนังเป็นสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุด มีระยะห่าง 4 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างศึกษาแผนงาน ทำให้อาจต้องใช้เวลานานหลายปีก็เป็นได้ค่ะ

ปัจจุบันบริเวณถนนบางแวกเป็นแหล่งชุมชนที่มีบ้านแนวราบอยู่เยอะ ประกอบกับมีตลาดและร้านค้า ร้านอาหารตามแนวถนน เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนโดยรอบ ถือว่ามีความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยสูง ทำให้เราไม่ค่อยเห็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรใหม่ๆมาเปิดตัวเท่าไหร่นัก ทางโครงการก็แอบบอกมานะว่าไม่มีที่ดินเปล่าติดถนนบางแวก ช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 1 จนถึงถนนกาญจนาภิเษกแล้ว เพราะที่ดินผืนสุดท้ายได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นโครงการ  Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) นี้นั่นเอง

Image 1/2
ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี

ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี

สำหรับคนที่ใช้ทางด่วนในการเดินทางเพื่อเข้าเมืองหรือไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช ก็สามารถใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าและทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกได้สะดวกทั้ง 2 เส้นทางเลยค่ะ

  • ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี : เมื่อออกจากโครงการให้เลี้ยวซ้ายไปเส้นถนนกาญจนาภิเษก เพื่อขับตรงไปยังจุดขึ้นทางคู่ขนานที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 กิโลเมตร
  • ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก : ขับจากโครงการมาบนถนนราชพฤกษ์ จากนั้นให้ขับตรงไปเรื่อยๆ แล้วกลับรถเพื่อไปยังทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตรงด่านตลิ่งชัน มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 9.8 กิโลเมตร

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายเรียงรายตลอดแนวถนน หากจะไปห้างใหญ่ๆที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น The Mall Lifestore บางแค ที่มีระยะห่างจากโครงการ 5.2 กม. หรือจะไป The Paseo Park กาญจนาภิเษก ที่ห่างจากโครงการ 6.7 กม. ก็ได้เหมือนกัน

แต่สำหรับความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลจะอิงมาโซนราชพฤกษ์ที่มีร้านค้าขนาดเล็ก-ใหญ่เกาะตามถนน พร้อมคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งอย่าง The Circle ราชพฤกษ์ และ Food Villa ราชพฤกษ์ (ตลาดสดกึ่งฟู้ดคอร์ทที่มีทั้งของสดและอาหารแห้ง) หรือขับออกไปอีกก็จะเจอกับ Central Westville ด้วย แต่เราแอบได้ข่าวมานะว่าที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ข้างๆ Food Villa ราชพฤกษ์ เป็นเจ้าของเดียวกับตลาดสดธนบุรีตรงถนนบรมราชชนนี และปัจจุบันมีการล้อมรั้วที่ดินแล้วด้วย ทำให้เราคาดว่าอาจจะพัฒนาทำเป็นตลาดสดธนบุรีเหมือนกัน ก็ทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้น นอกจากนั้นยังไปโซนปิ่นเกล้าที่มีห้างขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, Major ปิ่นเกล้า และคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Sense ปิ่นเกล้าและช่างชุ่ยได้เหมือนกันค่ะ

ส่วนโรงพยาบาลและสถานศึกษาก็มีอยู่หลายแห่งเลยในระยะ 10 กม. เช่น โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค, โรงพยาบาลธนบุรี 2, โรงพยาบาลศิริราช, โรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี, โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ดับเบิ้ลทรี ราชพฤกษ์และโรงเรียนบริติชโคลัมเบีย ถนนกัลปพฤกษ์ เป็นต้น

เนื่องจากข้อกฎหมายเกี่ยวกับผังที่ดินในโซนนี้ ทำให้รูปแบบบ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านบนที่ดินใหญ่ขนาด 100 ตร.วาขึ้นไป จึงทำให้พัฒนาเป็นโครงการบ้านหรูกันทั้งนั้น รวมถึงในอนาคตพื้นที่ในโซนนี้จะมีการปรับผังสีที่ดินจากผังที่ดินสีเขียว (เกษตรกรรม) เป็นผังที่ดินสีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) ทำให้เป็นทำเลศักยภาพและมีโอกาสที่จะเกิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หรือ Community Mall ใหม่ๆอีกมากมาย ช่วยเพิ่มความเจริญและความน่าอยู่อาศัยบนทำเลนี้นั่นเอง

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1)  เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดินของบ้านและราคาเกาะกลุ่มกับโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกัน แต่ตัวโครงการจะอยู่ติดถนนบางแวกและใกล้ถนนกาญจนาภิเษก ไปถนนราชพฤกษ์ก็ง่าย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ตั้งแต่ 312 ตร.ม. ไปถึง 438 ตร.ม. อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยจำนวนยูนิตเพียง 58 หลัง พร้อมฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Double Master Bedroom และ Double Volume ตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้นเลย อีกทั้งออกแบบรองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ มีความเป็นแหล่งชุมชนสูง ถึงแม้จะมีคนและรถยนต์ผ่านไปมาตลอด แต่บรรยากาศของทำเลค่อนข้างสงบ ไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพและไม่มีโรงงานหรือแหล่งที่ทำให้เกิดเสียงหรือกลิ่นมารบกวนการอยู่อาศัยค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนบางแวกและบ้านพักแนวราบ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักแนวราบ
  • ทิศใต้ ติดกับ หมู่บ้านจัดสรรและบ้านพักแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ทาวน์โฮม 4 ชั้นและบ้านพักแนวราบ

Image 1/3
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งซ้าย

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งซ้าย

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The Mall Lifestore บางแค ~ 5.2 กม.
  • The Paseo Park กาญจนาภิเษก ~ 6.7 กม.
  • Food Villa ราชพฤกษ์ ~ 6.8 กม.
  • เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ~ 7.0 กม.
  • แม็คโคร ฟู้ดเซอร์วิส กัลปพฤกษ์ ~ 9.0. กม.
  • ตลาดสดธนบุรี ~ 10.6 กม.
  • เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ~ 11.2 กม.
  • เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ~ 11.7 กม.
  • ICON SIAM ~ 11.9 กม.
  • เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ~ 13.1 กม.
  • เดอะ วอล์ค ราชพฤกษ์ ~ 14.0 กม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพญาไท 3 ~ 6.6 กม.
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค ~ 7.1 กม.
  • โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 7.4 กม.
  • โรงพยาบาลธนบุรี ~ 8.9 กม.
  • โรงพยาบาลศิริราช ~ 9.8 กม.
  • โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ~ 9.8 กม.

โรงเรียน

  • โรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี ~ 1.9 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี ~ 4.3 กม.
  • โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ดับเบิ้ลทรี ราชพฤกษ์ ~ 6.7 กม.
  • โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ Kensington ~ 8.4 กม.
  • โรงเรียนบริติชโคลัมเบีย ถนนกัลปพฤกษ์ ~ 9.7 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติ ดราก้อน ~ 15.2 กม.
  • โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ~ 15.7 กม.
  • มหาวิทยาลัยมหิดล ~ 17.6 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี ราชพฤกษ์ แคมปัส ~ 20.5 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติดีบีเอส เด่นหล้า ~ 26.4 กม.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ยูนิตน้อยเพียง 58 หลัง ทำให้ได้บรรยากาศภายในโครงการที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง
  • พื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ นอกจากจะเป็นมุมต้อนรับที่สวยงามแล้ว ยังเป็น Buffer Zone กันกลิ่นและเสียงจากถนนไม่ให้เข้าไปยังโซนบ้านพักอาศัย อีกทั้งแยกส่วนกลางออกมา ทำให้โซนบ้านได้ความเป็นส่วนตัว สงบ
  • บ้านหันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ ไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี

ก่อนจะเข้าไปดูรายละเอียดโครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) กัน อยากจะขอพูดถึง “Eastern Star” ที่เป็น Developer ของโครงการนี้สักหน่อย เพราะอาจจะมีหลายๆคนที่ไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้ว Developer เจ้านี้มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหามากว่า 35 ปี ทั้งในกรุงเทพฯ และบ้านฉาง จ.ระยอง ถ้าพูดถึงโครงการที่หลายๆคนคุ้นๆกันก็อย่างคอนโด Low Rise ตระกูล Quintara ต่างๆ รวมถึงคอนโด High Rise ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสตาร์วิลล์ อีกทั้งโครงการบ้านแนวราบระดับ Luxury เช่น Estara Haven พัฒนาการ 20 และทาวน์โฮมระดับพรีเมียม ESTON ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ

“Grand Velana Crown” เป็นแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ 2 แล้ว ต่อจาก Grand Velana Crown อู่ตะเภา – บ้านฉางที่มีราคาเริ่มต้น 11-17 ล้านบาท แต่โครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) นี้จะเป็นโครงการ Segment ระดับ Top สุดของ Eastern Star มีราคาเริ่มต้นที่ 23 ล้านบาทไปจนถึง 32 ล้านบาท ถึงแม้จะเป็นบ้านหรูโครงการแรกและอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็มีการออกแบบที่น่าสนใจหลายจุดเลยค่ะ เดี๋ยวเราจะค่อยๆพาไปดูกันนะ

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ยูนิตน้อยเพียง 58 ยูนิต บนที่ดินกว่า 27 ไร่ โดยออกแบบในสไตล์ Modern European Classic ลดทอนรายละเอียดให้ดูเรียบง่าย ทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงได้กลิ่นอายของความเป็นคลาสสิก เน้นโทนสีขาวและเพิ่มความโดดเด่นด้วยเส้นโค้ง, เหล็กแผ่นทำสี Copper และตัดด้วยสี Navy เพิ่มมิติและความสวยงาม โดยเราจะเห็นรายละเอียดการออกแบบนี้ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ อาคาร Clubhouse ไปจนถึงตัวบ้านเลยนั่นเอง

นอกจากนั้นยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางบริเวณด้านหน้าโครงการ พร้อมสวนสีเขียวแบ่งเป็น 2 จุด รวมประมาณ 1 ไร่กว่า สร้างบรรยากาศน่าอยู่อาศัยภายในโครงการและสร้างความประทับใจแรกได้ดีค่ะ งั้นเราจะพาไปดู Master Plan โครงการกันต่อเลยว่าจะมีจุดเด่นน่าสนใจบ้าง

  • ตัวโครงการตั้งอยู่ด้านใน มีระยะร่นจากถนนด้านหน้าโครงการและมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านหน้าโครงการเหมือนเป็น Buffer Zone ป้องกันเสียงและควันจากรถยนต์ ทำให้โซนบ้านได้ความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่สงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้น
  • พื้นที่ส่วนกลางบริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นมุมต้อนรับที่สวยงามและพื้นที่สวนสีเขียวยังช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่นเวลาเข้า-ออกโครงการ นอกจากนั้นยังเป็นการแยกส่วนกลางที่อาจเกิดเสียงดังและวุ่นวายออกจากโซนบ้านพักอาศัยด้วย
  • โซนบ้านแบบถนนวน Loop ทำให้สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง สะดวกกว่าโซนบ้านที่เป็นซอยตันนั่นเอง
  • การจัดตำแหน่งบ้าน โดยแบบบ้านหลังใหญ่สุดจะเป็นบ้านแปลงมุมติดถนนหลัก เข้า-ออกได้ง่ายและใกล้ส่วนกลาง สำหรับตำแหน่งของบ้านหลังกลางส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านแปลงมุมที่อยู่ห่างจากถนนหลักและส่วนกลาง ทำให้เด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสงบในการอยู่อาศัย ส่วนแบบบ้านเริ่มต้นจะเป็นบ้านแปลงกลาง แต่ก็มีบ้านแปลงมุมหรือบ้านใกล้ส่วนกลางให้เลือกเหมือนกันนะ
  • ทิศของบ้าน หันขนานไปตามทิศเหนือและใต้ที่ไม่โดนแดดโดยตรง โดยบ้านที่หันไปทางทิศเหนือจะได้ร่มเงาช่วงบ่าย ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ก็เปิดรับลมได้ดีค่ะ นอกจากนั้นบ้านที่หันไปฝั่งทิศเหนือจะได้ทัศนียภาพที่สวยงาม ไม่มีสายไฟฟ้าพาดผ่านหน้าบ้าน เพราะเสาไฟของโครงการจะตั้งอยู่ด้านหน้าบ้านที่หันไปฝั่งทิศใต้ค่ะ

Image 1/2
ซุ้มประตูโครงการ

ซุ้มประตูโครงการ

เรามาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการกันเลย โดยซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการมีขนาดใหญ่ มีหลังคาช่วยบังแดด-ฝนได้ พร้อมจัดสวนสีเขียวอยู่ด้านข้างดูสวยงามและป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนเลย รวมถึงมีระยะร่นจากถนนหลัก ช่วยให้รถของลูกบ้านต่อแถวเข้า-ออกโครงการและไม่ไปติดขัดการจราจรบริเวณถนนด้านหน้าโครงการด้วยค่ะ

ทางโครงการออกแบบในสไตล์ Modern European Classic เน้นโทนอาคารสีขาว ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย เพิ่มลูกเล่นด้วยเส้นโค้ง เพิ่มความนุ่มนวล, ผนังที่ตกแต่งเป็นเหล็กแผ่นทำสี Copper เกิดความแวววาวและตัดด้วยสี Navy เพิ่มมิติและความสวยงามให้ตัวซุ้มประตูดูทันสมัย ไม่ดูเรียบจนเกินไป

ประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อน แบ่งใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่อง มีระบบในการเข้า-ออกโครงการแบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ส่วนป้อม รปภ. จะอยู่ตรงกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 29 จุด, รั้วทึบรอบโครงการสูง 3.00 เมตร ต่อรั้วระแนงเพิ่ม 2.50 เมตร เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยภายในโครงการค่ะ

เมื่อขับผ่านซุ้มประตูเข้ามาด้านในโครงการแล้วจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ให้เราสามารถใช้เป็นพื้นที่กลับรถได้สะดวก อีกทั้งมีอาคาร Clubhouse เป็นมุมต้อนรับที่สวยงาม เพราะพอตอนขับเข้ามาก็จะได้วิวสวยๆแบบนี้เลย สร้างความประทับใจแรกเมื่อเข้าสู่โครงการได้ดีค่ะ

สำหรับถนนหลักภายในโครงการจะมีความกว้าง 12 เมตร เป็นเส้นยาวจากด้านหน้าไปยังด้านในสุดของโครงการ จากนั้นจึงมีถนนแบ่งแยกไปซอยย่อยต่างๆค่ะ มีขนาดความกว้างของถนนภายในโครงการอยู่ที่ 9-10 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่รถยนต์สามารถขับรถสวนกันได้สบาย

Image 1/3
LE CLUB

LE CLUB

อาคาร Clubhouse ของโครงการชื่อว่า “LE CLUB” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการเลย มีการออกแบบสไตล์ Modern European Classic ที่ต่อเนื่องมาจากซุ้มประตูโครงการ และยังคงลูกเล่นอย่างการใช้เส้นโค้ง, เหล็กแผ่นทำสี Copper และการเลือกใช้สี Navy ทำให้ตัวอาคารดูมีเอกลักษณ์ดีเลยค่ะ

บริเวณด้านหน้าอาคารนี้จะมีพื้นที่สวนสีเขียวขนาด 274.5 ตร.วา ออกแบบเป็นสนามหญ้าและปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่นานาพันธุ์พร้อมดอกไม้สีสันสดใส ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตรดี รวมถึงมี Pavilion ศาลานั่งพักผ่อน และ Party Court ให้มาใช้งานกันได้ด้วย

ส่วนบริเวณด้านหลังของอาคาร Clubhouse จะมีพื้นที่จอดรถและจุด EV Charger รองรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยนะ รวมถึงทางลาดรองรับวีลแชร์ ซึ่งถือเป็นการออกแบบตามหลัก Universal Design ที่ดี รองรับการใช้งานของคนได้ทุกวัย ทำให้เราสามารถพาคุณปู่-คุณย่ามานั่งเล่น ทำกิจกรรมที่ Clubhouse นี้ได้นั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศของ Lobby & Lounge เมื่อเข้ามาภายใน LE CLUB จะเจอกับ Lobby & Lounge เป็นพื้นที่ต้อนรับและนั่งพักผ่อนพูดคุย โดยจะออกแบบเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งยังตกแต่งด้วยโทนสีขาว ดูสบายตาและซุ้มโค้ง เพิ่มความอ่อนนุ่ม เป็นมิตร จึงทำให้ได้บรรยากาศภายใน Lobby & Lounge ที่ไม่เป็นทางการมากเกินไป แต่ยังคงได้ความเรียบหรูอยู่

ภาพจำลองบรรยากาศของ Meeting Room เป็นพื้นที่ให้มานั่งทำงานหรือประชุมต่างๆได้ ภายในห้องจะจัดเป็นโต๊ะยาวรองรับ 9 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งทีวีให้สามารถใช้นำเสนองานได้ด้วย นอกจากนั้นยังออกแบบผนังฝั่งนึงของห้องเป็นกระจกแบบ Full Height พร้อมหน้าต่างแบบกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้กว้างมากขึ้น ทำให้บรรยากาศการประชุมไม่เคร่งเครียด

ภาพจำลองบรรยากาศของ Fitness ที่ออกแบบเปิดรับวิวทั้งฝั่งด้านหน้า-ด้านหลังของ Clubhouse จึงออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวได้เพลินๆดีค่ะ โดยจะมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่องทั้งแบบ Cardio และ Weight Trianning มาให้ครบครัน

ภาพจำลองบรรยากาศของสระว่ายน้ำของโครงการ โดยจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.50×24.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร พร้อมแบ่งสระเด็ก ขนาด 3.00×3.30 เมตร ความลึก 0.60 เมตร ทำให้สามารถมาว่ายน้ำ-ออกกำลังกายได้จริงจังเลยนะ โดยจะออกแบบสระแบบยกสูงจากพื้นถนน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อยค่ะ

ทางโครงการออกแบบพื้นที่สวนหย่อม 2 จุด แบ่งเป็นสวนด้านหน้า Clubhouse ขนาด 274.5 ตร.วา และภาพด้านบนนี้ที่เป็น Main Park สวนแนวยาวตรงกลางโครงการขนาด 342.5 ตร.วา รวมพื้นที่สีเขียวทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ครึ่ง

Main Park นี้จะเป็นสวนแนวยาวประมาณ 90 เมตร ถึงจะไม่ได้มีความยาวมากนัก แต่ออกแบบขนานไปกับถนนหลักของโครงการ ทำให้เวลาขับรถเข้า-ออกโครงการก็จะได้วิวสวนสีเขียวสวยๆนี้ ทำให้ได้ความรู้สึกสดชื่น ร่มรื่นและน่าอยู่อาศัยมากๆ อีกทั้งอยู่ใกล้ๆกับ Clubhouse ทำให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีด้วยค่ะ

Image 1/4
Main Park

Main Park

ทางโครงการออกแบบ Main Park ภายใต้แนวคิด Retreat Valley มีทั้งการปูสนามหญ้ากว้าง พร้อมต้นไม้เล็ก-ใหญ่และเนินหญ้าสูง-ต่ำแทรกไปกับทางเดิน ทำให้เวลาเราเดินอยู่ในสวนก็จะค่อยๆซึมซับบรรยากาศร่มรื่นของสวนนี้นั่นเอง นอกจากนั้นยังเพิ่มสีสันให้กับสวนด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงมีพื้นที่นั่งเล่นในสวนกระจายอยู่รอบๆและมี Pavilion ศาลานั่งพักผ่อนให้ลูกบ้านมานั่งเล่นท่ามกลางสวนสีเขียวนี้ได้เลย

Image 1/2
สนามเด็กเล่น

สนามเด็กเล่น

นอกจากนั้นยังมีสนามเด็กเล่นที่ทำพื้นเป็นสีสันสดใส น่าจะถูกใจเด็กๆแน่นอน พร้อมสไลด์เดอร์ให้มาเล่นสนุกกันได้ พร้อมปูพื้นยาง ช่วยซับแรงกระแทกเวลาน้องๆเล่นแล้วหกล้มจะได้ไม่บาดเจ็บหนัก รวมถึงมีพื้นที่นั่งเล่นให้คุณพ่อ-คุณแม่หรือพี่เลี้ยงมานั่งเฝ้า ดูแลน้องๆได้อย่างใกล้ชิดด้วย

Image 1/2
Pet Station

Pet Station

ทางโครงการยังออกแบบเอาใจ Pet Parent ครอบครัวที่มีน้องๆสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ด้วยนะ เพราะมี Pet Station เป็นสนามหญ้าให้พาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นหรือเล่นสนุกกับสัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้าน ส่วนด้านข้างจะมีพื้นที่นั่งพัก-วางของ รวมถึงเสาสำหรับผูกสายจูงสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ ทางโครงการไม่ได้มีการกั้นล้อมรั้วพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงมาให้โดยเฉพาะ แต่ยังดีที่ออกแบบ Pet Station อยู่ด้านในสุดของสวน ถือว่ามีการออกแบบแบ่งแยกโซนได้ดีในระดับนึงเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร LE CLUB บริเวณด้านหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย
  • Lobby & Lounge
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ 4.50×24.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร พร้อมแบ่งสระเด็ก ขนาด 3.00×3.30 เมตร ความลึก 0.60 เมตร
  • พื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ
  • ห้องน้ำ แบ่งฝั่งชาย-หญิง
  • Fitness ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง
  • Meeting Room
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด แบ่งเป็นสวนด้านหน้า Clubhouse ขนาด 274.5 ตร.วา และสวนแนวยาวตรงกลางขนาด 342.5 ตร.วา รวมประมาณ 1 ไร่ครึ่ง
  • สนามเด็กเล่น
  • พื้นที่นั่งเล่นในสวน
  • Party Court
  • Pavilion
  • Pet Station
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กรางเลื่อน
  • ระบบในการเข้า-ออกโครงการแบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 29 จุด
  • รั้วทึบรอบโครงการสูง 3.00 เมตรและต่อรั้วระแนงเพิ่ม 2.50 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9-10 ม.
  • ระบบไฟฟ้าในโครงการ 3 เฟส (มีเสาไฟ, สายไฟร้อยท่อลงดินเข้าบ้าน)

แบบบ้าน

Highlight

  • บ้านเดี่ยวที่ดิน 100+ ตร.วา มีพื้นที่รอบบ้านขนาดใหญ่ ทำกิจกรรมต่างๆได้
  • ฟังก์ชันแบบ Double ในทุกยูนิต ทั้ง Double Master Bedroom และมีอ่างอาบน้ำทั้ง 2 ห้อง รวมถึง Double Volume พื้นที่ฝ้าเพดานสูงตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้น ส่วนแบบบ้านอื่นก็มี Double Living Space พื้นที่รับแขก-พื้นที่ของครอบครัวและ Double Foyer พื้นที่ต้อนรับ 2 จุดด้วย
  • เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ออกแบบมีทางลาด ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานได้ง่าย
  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ทุบ-ต่อเติมได้ง่าย ทำให้สามารถเชื่อมพื้นที่เป็นขนาดใหญ่หรือกั้นห้องเป็นสัดส่วนได้สะดวก

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern European Classic ออกแบบเน้นโทนอาคารสีขาว ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา ขึ้นไป ได้พื้นที่รอบบ้านกว้างๆ

เราสังเกตมาหลายๆโครงการแล้ว ถ้าเป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ใหม่ มักจะออกแบบมาแตกต่างและให้ของดีๆมาเยอะ เพื่อแข่งขันกับโครงการอื่นๆบนทำเลเดียวกัน ซึ่งทำให้ผลประโยชน์ตกมาที่ลูกบ้านอย่างเรานั่นเอง เพราะมีหลายโครงการให้เลือก จึงเลือกได้ตรงตามไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของเราเลยค่ะ

อย่างโครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) ที่เป็นบ้านหรูโครงการแรก ก็ออกแบบมาได้น่าสนใจมากๆ เพราะโดดเด่นด้วยฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Double Master Bedroom ที่มีอ่างอาบน้ำทั้ง 2 ห้องเลย ทำให้ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ อยู่ได้สบายถึง 2 ห้อง รวมถึงมีพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูงประมาณ 6 เมตรตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้น ส่วนแบบบ้านหลังกลาง-ใหญ่จะมี Double Foyer พื้นที่ต้อนรับ 2 จุดและ Double Living Space พื้นที่รับแขก-พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวด้วย นอกจากนั้นยังออกแบบตามหลัก Universal Design ทั้งทางลาด ห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ทำให้สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยได้สบายเลยค่ะ

  • Sierra (เซร่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • Monté (มอนเต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  • Lé Ciel (เรอซีแอล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 438 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน

โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

  • หลังคาบ้านทรงปั้นหยา พร้อมติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา
  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา รองรับการทุบ-ต่อเติมขยับขยายพื้นที่ได้
  • โครงสร้างที่จอดรถเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร
  • โครงสร้างลานซักล้างเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 40×40 เซนติเมตร
  • ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ พร้อมติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติมาให้
  • พื้นชั้น 1
    – พื้นที่ Common Area, ห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร
    – ห้องนอนชั้นล่าง : พื้น SPC ลายไม้
    – Terrace : กระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร
    – Powder Room และห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
    – ห้องแม่บ้านและห้องเก็บของ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 2
    – ห้องนอนและ Family Area : พื้น SPC ลายไม้
    – ห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
    – Balcony : กระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน : ชั้น 1 – 2.80 เมตร / ชั้น 2 – 3 เมตร / Double Volume 6.00 เมตร
  • ผนังภายในฉาบเรียบทาสีขาว
  • ประตูภายในบ้าน : UPVC
  • วัสดุกรอบบานหน้าต่าง : อะลูมิเนียม สีเทาดำ จาก TOSTEM
  • สวิตช์-ปลั๊ก จาก LEGRAND
  • ห้องครัว : Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของทั้งบน-ล่าง
    – Top Counter : หินเทียม
    – Backsplash : กระเบื้อง
    – อ่างล้างจาน : MEX
    – Hob และ Hood : TEKA
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
    – ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก KOHLER
    – โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard (Powder Room ติดตั้งเป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ)
    – ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก I-SPA (ยกเว้นห้องนอนชั้นล่าง)
    – อ่างอาบน้ำ จาก I-SPA (เฉพาะ Master Bedroom และ Junior Master Bedroom)
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC ลายไม้ ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับ ทำสีเหมือนตัวบันได
  • ระบบไฟฟ้า 3 เฟส
  • ไฟ LED แบบดาวน์ไลท์
  • จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ โดยปูสนามหญ้า, ลงต้นไม้ใหญ่และแต่งสวนมาให้

นวัตกรรมและเทคโนโลยีภายในบ้าน

  • Digital Door Lock จาก YALE บริเวณประตูทางเข้ารอง สามารถรองรับได้ 5 ระบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application
  • Junction Box รองรับ EV Charger
  • CCTV จำนวน 3 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ, Common Area และบริเวณหลังบ้าน
  • Home Automation ได้แก่ Smart Siren, Touch Screen ระบบควบคุมไฟ, IR Control เครื่องปรับอากาศ, Smoke Sensor, Motion Sensor บริเวณชั้น 1-2, Magnetic Sensor บริเวณชั้น 1-2 และปุ่ม SOS บริเวณห้องน้ำชั้นล่าง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

วันนี้เราได้เก็บภาพบรรยากาศของทั้ง 3 แบบบ้านมาให้ชมกัน โดยจะพาไปเจาะลึกกันที่แบบบ้านเริ่มต้น Sierra (เซร่า) และบ้านหลังใหญ่สุดอย่าง Lé Ciel (เรอซีแอล) ที่ได้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นไอเดียเรียบร้อยเลย ส่วน Monté (มอนเต้) จะเป็นบ้านเปล่าๆ ไม่มีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์นะคะ ทำให้เราได้เห็นพื้นที่ใช้งานจริงๆเลยนั่นเอง งั้นเราพาไปชมบ้านตัวอย่างแต่ละแบบบ้านกันเลยค่ะ


Sierra (เซร่า)

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะพาไปดูกัน ได้แก่ Sierra (เซร่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการนะ จำนวนประมาณครึ่งนึงของยูนิตทั้งหมดได้เลย รวมถึงจะเป็นบ้านตำแหน่งแปลงกลางทั้งหมดค่ะ

ตัวบ้านมีความน่าสนใจหลายจุดเลยนะ เพราะถึงแม้จะเป็นแบบบ้านเริ่มต้น แต่ก็ได้ 4 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุได้เลย มีห้องแม่บ้าน อีกทั้งออกแบบ Double Volume พื้นที่ฝ้าเพดานสูงตรง Foyer และที่สำคัญที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือได้ Double Master Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ถึง 2 ห้อง แถมติดตั้งอ่างอาบน้ำมาให้ทั้ง 2 ห้องด้วย งั้นเราพาไปชมบรรยากาศภายในบ้านกันเลย

Image 1/2
Sierra (เซร่า)

Sierra (เซร่า)

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 3 คันในร่ม ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger และห้องเก็บของและทางลาดรองรับวีลแชร์
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงวางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
  • Foyer ออกแบบเป็น Double Volume ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมประตูเปิดออกไปพื้นที่ด้านหลังบ้านได้
  • Powder Room ห้องน้ำสำหรับรองรับแขก
  • ห้องครัวแบบปิด ใช้เป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ลานซักล้าง พื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า ใช้งานได้สะดวก อยู่บริเวณเดียวกับห้องแม่บ้าน
  • ห้องแม่บ้าน มีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ใช้งานได้ง่าย เชื่อมต่อไปยังห้องครัว ทำงานได้สะดวก
  • ห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบเพื่อรองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ พร้อมห้องน้ำในตัวและมีประตูเปิดออกไปพื้นที่เฉลียงด้านหน้าบ้านได้
  • ห้องเก็บของใต้บันได สำหรับเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวหรือทำเป็นพื้นที่ทำงาน
  • ออกแบบแยกฝั่ง Master Bedroom และห้องนอนอื่นๆ
  • Double Master Bedroom ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง
  • Master Bedroom กั้นแบ่งพื้นที่ Walk – in Closet ขนาดใหญ่ได้สบายๆ
  • Master Bathroom ติดตั้งอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
  • Junior Master Bedroom ขนาดใหญ่พอๆกับ Master Bedroom
  • Junior Master Bathroom มีขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งอ่างอาบน้ำมาเรียบร้อย
  • ห้องนอนรอง วางเตียง 5-6 ฟุตได้ พร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานง่าย

เราพามาดูบริเวณด้านหน้าบ้านกันเลย โดยประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ พร้อมติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติมาให้ ทำให้เราไม่ต้องวุ่นวายไปติดตั้งเองนะ ช่วยให้รถเข้า-ออกบ้านได้สะดวกด้วย รวมถึงมีติดตั้งโคมไฟ กริ่ง กล่องไปรษณีย์ และถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านในที่ออกแบบช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยค่ะ

เราถ่ายภาพด้านหน้าบ้านนี้จากแปลงอื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวอย่างนะ โดยจะเป็นบ้านที่หันไปฝั่งทิศใต้ ทำให้จะเห็นเสาไฟและสายไฟฟ้าของโครงการอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน หากใครอยากได้ทัศนียภาพบริเวณด้านหน้าบ้านที่สวยงาม เรียบร้อย สะอาดตาก็ต้องเลือกเป็นบ้านที่หันไปฝั่งทิศเหนือเหมือนบ้านตัวอย่างค่ะ

Image 1/6
สวนของบ้านตัวอย่าง

สวนของบ้านตัวอย่าง

ทางโครงการจะปูสนามหญ้ารอบตัวบ้าน รวมถึงลงต้นไม้ใหญ่และแต่งสวนมาให้ตามมาตรฐานโครงการตามภาพด้านบนเลยนะคะ ซึ่งเอาจริงๆก็ถือว่าแต่งสวนมาให้เต็มแล้ว แต่เราก็สามารถตกแต่งเพิ่มได้เหมือนอย่างบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

Image 1/3
พื้นที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 3 คัน มีขนาดประมาณ 4.95×7.80 เมตร โดยโครงสร้างที่จอดรถจะเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน พร้อมปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร ลวดลายตามภาพด้านบนเลยนะคะ รวมถึงมีติดตั้ง CCTV จำนวน 3 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ, Common Area และบริเวณหลังบ้าน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยด้วยค่ะ

Image 1/3
ประตูทางเข้ารอง

ประตูทางเข้ารอง

บริเวณด้านหลังของพื้นที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารอง ทำให้เราสามารถยกของจากท้ายรถยนต์เข้าบ้านจากทางนี้ได้เลย โดยทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock จาก YALE บริเวณประตูทางเข้ารอง สามารถรองรับได้ 5 ระบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application มาให้เรียบร้อยแล้ว ใช้งานได้สะดวกมากๆ อย่างเวลาที่กลับบ้านมาตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็เข้าบ้านจากทางนี้ได้เลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมี Junction Box รองรับ EV Charger สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และห้องเก็บของที่เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์รถยนต์หรืออุปกรณ์ทำสวนต่างๆ รวมถึงมีทางลาดความกว้างประมาณ 1 เมตร รองรับวีลแชร์ รถเข็นเด็กหรือกระเป๋าเดินทางได้นั่นเอง

จากพื้นที่จอดรถจะมีทางเดินเชื่อมไปยังบริเวณประตูทางเข้าหลักได้ด้วยนะ

Image 1/2
บริเวณด้านหน้าบ้าน

บริเวณด้านหน้าบ้าน

บริเวณด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดด-ฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงขนาดประมาณ 1.50×2.40 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร สามารถดูแลทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนประตูทางเข้าบ้านนี้จะเป็นอะลูมิเนียม สีเทาดำ จาก TOSTEM เราชอบที่เลือกให้มีช่องกระจกบางส่วน จึงทำให้มองออกไปเห็นแขกบริเวณด้านหน้าบ้านได้นั่นเอง

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Foyer พื้นที่ต้อนรับขนาด 2.20×3.50 เมตร ที่มีพื้นที่ด้านข้างเหมาะทำเป็นพื้นที่นั่งใส่รองเท้าหรือตั้งชั้นวางของโชว์ได้ รวมถึงยังออกแบบเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูงประมาณ 6 เมตร ทำให้พอก้าวเท้าเข้าบ้านมาจะได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากๆ สร้างความประทับใจแรกได้ดี

นอกจากนั้นยังมีช่องหน้าต่างด้านบนบานประตู, บริเวณโถงบันไดและด้านข้างของ Foyer จึงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านได้เยอะมากๆ ทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านที่ไม่มืดทึบนะ

Image 1/2
Common Area

Common Area

เมื่อผ่าน Foyer เข้ามาด้านในบ้านจะเป็น Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 4.50×9.65 เมตร อย่างที่เรารู้กันว่าข้อดีของการออกแบบ Open Plan คือ ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายและพอประกอบหน้าต่างยาวตลอดแนวตรงด้านหลังบ้านกับพื้นที่ Double Volume ก็ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านที่โปร่งโล่งมากๆ

ซึ่งประตูกระจกและหน้าต่างจะเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสีเขียวด้านหลังบ้านให้กับพื้นที่บริเวณนี้ด้วย ทำให้เวลานั่งเล่นก็ชมวิวสวนได้เลย รวมถึงยังเปิดออกไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านได้ด้วย

สำหรับวัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร ช่วยทำให้ภายในบ้านดูกว้าง ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์และผนังภายในบ้านจะฉาบเรียบทาสีขาว

ทางโครงการเลือกใช้สวิตช์-ปลั๊ก จาก LEGRAND รวมถึงมีหน้าจอควบคุม Home Automation ภายในบ้าน ได้แก่ ระบบ Smart Siren, Touch Screen ระบบควบคุมไฟ, IR Control เครื่องปรับอากาศ, Smoke Sensor, Motion Sensor บริเวณชั้น 1-2, Magnetic Sensor บริเวณชั้น 1-2 และปุ่ม SOS บริเวณห้องน้ำชั้นล่าง รวมถึง CCTV ที่มีทั้งพื้นที่จอดรถและหลังบ้านแล้ว ยังมีตรงพื้นที่ Common Area มาช่วยเพิ่มระบบความปลอดภัยภายในบ้านด้วยนะ

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.05×4.50 เมตร สามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ทั้งวางโซฟา พร้อมโต๊ะกลางได้สบาย อีกทั้งทำ Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของได้ มีพื้นที่เดินเข้า-ออกบ้านกว้าง ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.70 เมตร จึงติดตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ค่ะ

Image 1/3
พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry

พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบาย และมีมุม Pantry อยู่ด้านข้างทำเป็นพื้นที่เตรียมอาหารง่ายๆหรือจะทำเป็นบาร์เล็กๆก็ได้ ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องครัว ทำให้สามารถจัดเสิร์ฟอาหารได้สะดวก

อีกทั้งด้านข้างของพื้นที่รับประทานอาหารนี้จะมีประตูกระจกที่มองออกไปยังสวนด้านหลังบ้านได้จึงทำให้เวลานั่งรับประทานอาหารก็ชมวิวสวนสีเขียวได้เพลินๆเลยค่ะ

บริเวณด้านหลังของ Pantry ทางฝั่งซ้ายของภาพจะเป็นห้องครัวแบบปิดที่เชื่อมไปยังโซนซักล้างและห้องแม่บ้าน ส่วนฝั่งขวาของภาพจะเป็นประตูทางเข้ารองที่เชื่อมมาจากพื้นที่จอดรถและด้านในสุดจะเป็น Powder Room ค่ะ ซึ่งเราจะพาไปดู Powder Room กันก่อนนะคะ

Image 1/4
Powder Room

Powder Room

Powder Room มีขนาดประมาณ 1.90×2.00 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยเป็นห้องน้ำที่ไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำนั่นเอง ภายในห้องน้ำนี้ติดตั้งอ่างล้างมือจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ จาก American Standard เราชอบที่ออกแบบเคาน์เตอร์อ่างล้างมือกว้างเท่าตัวห้องน้ำเลย ทำให้มีพื้นที่วางของตกแต่งหรือวางกระเป๋าต่างๆได้สะดวกดี

ก่อนที่จะไปห้องครัวกันต่อ อยากให้ดูประตูของบ้านนี้สักหน่อย เพราะประตูภายในบ้านจะเป็น UPVC ที่มีหน้าตาเหมือนภาพด้านบนเลยนะ ดูดีเลยค่ะ ส่วนประตูห้องครัวจะได้แบบทางฝั่งขวาของภาพนั่นเอง ซึ่งเราชอบนะที่มีช่องหน้าต่างเล็กๆให้สามารถมองเห็นคนอีกฝั่งได้ ทำให้เวลาเปิดประตูจะได้ไม่ชนคนที่ถือจานอาหารต่างๆจนหกหรือจานแตกได้

แต่ถ้าอยากให้ใช้งานง่ายขึ้นอีกก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแทนนะคะ นอกจากจะเป็นกระจกมองเห็นอีกฝั่งแล้ว ยังเปิด-ปิดได้ง่ายด้วยค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ถือของหนักๆแล้วมีมือว่างเปิดประตูข้างเดียว

Image 1/5
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวของโครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิดขนาด 2.50×3.50 เมตร โดยสามารถใช้งานเป็นทั้งครัวฝรั่งหรือครัวไทยได้เลย เวลาอยากจะเตรียมอาหารที่มีกลิ่นหรือควันเยอะก็สามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูที่เชื่อมไปยังโซน Service เพื่อระบายอากาศได้ง่ายดี

ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L มาให้เหมือนภาพด้านบนเลยนะ Top Counter ด้วยหินเทียม มีช่องเก็บของค่อนข้างเยอะ พร้อมติดตั้งอ่างล้างมือจาก MEX ส่วน Hob และ Hood จาก TEKA รวมถึงติดตั้ง Backsplash เป็นกระเบื้องมาให้ด้วย ช่วยทำให้เศษอาหารไม่กระเด็นไปเลอะตรงผนัง เพราะสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างห้องยังมีพื้นที่ทำ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มได้ด้วยเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียได้เลยค่ะ

Image 1/3
โซน Service

โซน Service

ด้านข้างของห้องครัวจะมีประตูกระจกเปิดออกไปยังโซน Service ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่ลานซักล้างและโซนแม่บ้านด้วย โดยพื้นที่ลานซักล้างนี้ขนาดประมาณ 2.70×4.50 เมตร มีโครงสร้างแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นทรุดตัว พร้อมปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 40×40 เซนติเมตร ทำให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้เลยค่ะ

Image 1/2
ห้องแม่บ้าน

ห้องแม่บ้าน

สำหรับแบบบ้านเริ่มต้นนี้จะมีห้องแม่บ้านมาให้ 1 ห้อง ขนาด 2.00×2.15 เมตร และมีห้องน้ำขนาด 1.60×1.60 เมตร ที่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องน้ำมาครบครันอยู่ใกล้ๆ จึงใช้งานได้สะดวก โดยทางโครงการออกแบบโซนแม่บ้านอยู่ใกล้กับทั้งโซนลานซักล้างและห้องครัว จึงทำให้แม่บ้านทำงาน-ดูแลจัดการเรื่องต่างๆภายในบ้านได้ง่ายดี

Image 1/2
ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่าง

ต่อมาเราพากลับมาตรงพื้นที่นั่งเล่นภายในบ้านกันนะ ซึ่งข้างๆพื้นที่นั่งเล่นนี้จะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่ทางโครงการออกแบบมาเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุโดยเฉพาะเลย แค่สังเกตตรงด้านล่างประตูห้องนอนก็จะเห็นเป็นพื้นเรียบเสมอกัน ทำให้สามารถเข็นวีลแชร์หรือเดินเข้าห้องได้ไม่สะดุดค่ะ แต่แอบเสียดายไปนิดนึงที่เป็นประตูบานผลัก แต่เราก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อนได้นะ จะได้เปิด-ปิดได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้นเราชอบที่ห้องนอนนี้อยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นเลย ทำให้คุณปู่-คุณย่าสามารถมานั่งเล่นพร้อมหน้าพร้อมตากับลูกๆหลานๆภายในบ้านได้ ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องด้วย

Image 1/5
ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.50×3.95 เมตร ส่วนพื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ ปูพื้นเป็น SPC ลายไม้ แนะนำวางเป็นเตียง 3.5-5 ฟุตกำลังดี จะได้มีพื้นที่รอบเตียงเดินหรือเข็นวีลแชร์เข้า-ออกได้ง่าย รวมถึงมีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีเล็กๆได้ด้วย นอกจากนั้นยังได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้เปิดรับแสงและวิวสวนด้านหน้าบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่สดชื่นดี รวมถึงยังเปิดเชื่อมออกไปยัง Terrace ด้านหน้าบ้านได้ด้วยนะ ทำเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor เหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ก็ทำให้คุณปู่-คุณย่าได้เปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งเล่นด้วย

Image 1/5
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง

ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง

ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 1.75×2.70 เมตร ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยเป็นประตูบานเลื่อนที่เปิด-ปิดได้ง่าย ออกแบบเป็นพื้นระดับเดียวกันทั้งหมด เดินผ่านได้ไม่สะดุด พร้อม Floor Drain บริเวณประตูห้องน้ำ ไม่ให้น้ำไหลออกไปยังห้องนอนด้วยค่ะ

ภายในห้องน้ำออกแบบแยกส่วนแห้ง-เปียกไว้อย่างชัดเจน ติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ยกเว้นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ค่ะ ซึ่งทางโครงการมีติดตั้งตู้เก็บของด้านล่างอ่างล้างมือให้สำหรับเก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.90 เมตร พร้อมติดตั้งฝักบัวจาก KOHLER พร้อมก่อที่นั่งอาบน้ำมาให้พร้อมเลย เราแนะนำให้ติดตั้งพวกราวจับช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งทั้งบริเวณโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำเพิ่มเติมนะคะ ช่วยให้คุณปู่-คุณย่าใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย

ก่อนที่เราจะขึ้นไปชั้น 2 กันจะมีห้องเก็บของอยู่ด้านข้างบันไดเลยค่ะ โดยเราสามารถเก็บเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของชิ้นใหญ่ได้นะ ช่วยทำให้พื้นที่ภายในบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วย SPC ลายไม้ มีความกว้างบันไดประมาณ 1.15 เมตร ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับ ทำสีเหมือนตัวบันได มีลูกนอนกว้างประมาณ 27 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. เดินขึ้น-ลงได้สบาย ส่วนบริเวณโถงบันไดก็มีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศบริเวณโถงบันไดไม่มืดทึบค่ะ

Image 1/2
Family Area

Family Area

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและเพิ่มบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น ส่วนความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 3.00 เมตร ได้บรรยากาศโปร่งสบายมากขึ้น

การออกแบบพื้นที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นฝั่งซ้าย-ขวา โดย Master Bedroom จะแยกฝั่งอยู่ห้องเดียว ไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Junior Master Bedroom ที่หันไปด้านหน้าบ้านและห้องนอนรองที่หันไปฝั่งด้านหลังบ้าน ซึ่งมี Family Area อยู่ตรงกลางชั้น 2 ทำให้สมาชิกในบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ในระยะที่พอๆกัน

Family Area มีขนาดประมาณ 4.50×5.00 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัวที่เป็นกันเองมากขึ้น จะปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกายหรือจะทำเป็นพื้นที่นั่งทำงานเหมือนที่บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียก็ได้นะ หากใครที่มีสัตว์เลี้ยงก็ใช้เป็นพื้นที่ของน้องๆสัตว์เลี้ยงได้ด้วยค่ะ

Image 1/3
Master Bedroom

Master Bedroom

เราพามาดู Master Bedroom กันก่อนเลยนะ โดยมีขนาดประมาณ 5.55×7.75 เมตร โดยด้านในห้องจะเป็นพื้นที่เตียงนอนและมีพื้นที่นั่งเล่นได้สบายๆเลยค่ะ ส่วนช่องแสงก็จะได้มาจากทั้ง 3 ฝั่ง ทำให้ได้บรรยากาศที่โปร่งสบายดี

Image 1/4
Master Bedroom

Master Bedroom

พื้นที่เตียงนอนสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยนะ วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ  พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง มีพื้นที่รอบเตียงกว้าง เดินผ่านได้ง่าย รวมถึงยังทำชั้นวางทีวีและชั้นวางของตรงบริเวณปลายเตียงแบบเต็มผนังได้

ส่วนพื้นที่นั่งเล่นในห้องนี้ก็ตั้งเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโซฟาด้านข้างและโต๊ะกลางได้ด้วย หรือจริงๆจะใช้เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานก็ได้เหมือนกันนะ

Image 1/2
พื้นที่แต่งตัวของ Master Bedroom

พื้นที่แต่งตัวของ Master Bedroom

บริเวณด้านหน้าห้องของ Master Bedroom จะเป็นพื้นที่แต่งตัวขนาดประมาณ 2.35×4.40 เมตร ซึ่งเราสามารถ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาวเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ รวมถึงสามารถแบ่งฝั่งชาย-หญิงได้ด้วยนะ โดยจะมีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ 1.15 เมตร

หากใครอยากได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถกั้นประตูคั่นระหว่างพื้นที่แต่งตัวและโซนเตียงนอน-นั่งเล่นด้านในห้องได้นะ ทำให้ป้องกันฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นจากห้องน้ำเข้าไปยังด้านในห้องด้วย

Image 1/7
Master Bathroom

Master Bathroom

Master Bathroom มีขนาด 2.50×4.15 เมตร ปูกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน โดยเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นแบบ His & Her พร้อมช่องเก็บด้านล่างสำหรับอุปกรณ์ในห้องน้ำ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.20×1.40 เมตร ติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower พร้อมก่อที่นั่งอาบน้ำและติดตั้งฉากกั้นกระจก จาก  I-SPA จึงสามารถยืนอาบน้ำได้สะดวกและน้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ รวมถึงมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-SPA มาให้นอนแช่น้ำผ่อนคลายได้ด้วยค่ะ

Image 1/4
Junior Master Bedroom

Junior Master Bedroom

อย่างที่เราได้บอกไปตั้งแต่ต้นๆเลยนะว่าจุดเด่นของโครงการนี้ที่แตกต่างกับโครงการอื่นๆ คือ  Double Master Bedroom ได้ห้องนอนขนาดใหญ่มากๆถึง 2 ห้องเลยนั่นเอง โดย Junior Master Bedroom และห้องน้ำในตัวจะมีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom เลยนั่นเอง

Junior Master Bedroom จะตั้งอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน มีขนาดประมาณ 4.00×6.30 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆ บริเวณพื้นที่ปลายเตียงทำ Built-in ชั้นวางทีวีได้ด้วย มีพื้นที่เดินรอบเตียงกว้าง ส่วนด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ขนาด 1.50×6.30 เมตร เป็นพื้นที่แต่งตัว จึง Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ ทำให้อาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวต่อได้เลย จึงใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

Image 1/3
ระเบียงส่วนตัวของ Junior Master Bedroom

ระเบียงส่วนตัวของ Junior Master Bedroom

สำหรับ Junior Master Bedroom จะมีระเบียงส่วนตัวที่หันไปทางด้านหน้าบ้านด้วยค่ะ มีขนาด 0.90×2.25 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร เรามองว่าเหมาะทำเป็นมุมต้นไม้เล็กๆ ที่นอกจากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้ว ยังเป็นวิวต้นไม้ให้กับห้องนอนด้วยนั่นเอง

Image 1/6
Junior Master Bathroom

Junior Master Bathroom

Junior Master Bathroom ก็มีการออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจนและเลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard เหมือนกับ Master Bathroom เลยค่ะ แต่จะมีขนาดห้องที่เล็กกว่าหน่อย มีขนาดอยู่ที่ 2.80×3.15 เมตร และเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะมีเพียง 1 อ่าง แต่ยังคงได้เคาน์เตอร์ยาวอยู่ จึงมีพื้นที่ให้วางของเยอะ พร้อมช่องเก็บด้านล่าง

ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.10×1.10 เมตร ติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower จาก KOHLER พร้อมฉากกั้นกระจกและมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-SPA มาให้เหมือนกับ Master Bathroom ดังนั้นจึงมีความแตกต่างกันเพียงนิดเดียวเองนะ

Image 1/2
ห้องนอนรอง

ห้องนอนรอง

ต่อมาเราพามาดูห้องนอนห้องสุดท้ายกัน นั่นก็คือ ห้องนอนรองนั่นเอง ถึงแม้จะเป็นห้องนอนรอง ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับ Master Bedroom หรือ Junior Master Bedroom แต่ก็สามารถอยู่อาศัยได้สบายๆเลยค่ะ โดยห้องนอนรองนี้จะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน มีขนาด 4.00×4.20 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง มีพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนบริเวณปลายเตียงมีพื้นที่ตั้งโต๊ะนั่งอ่านหนังสือหรือชั้นวางทีวีได้สบายๆเลย

Image 1/4
ห้องน้ำของห้องนอนรอง

ห้องน้ำของห้องนอนรอง

ห้องน้ำของห้องนอนรองมีขนาด 1.45×2.80 เมตร ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกและเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ส่วนโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard มีพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.00 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำจาก I-SPA มาให้ด้วย ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นนั่นเอง


Lé Ciel (เรอซีแอล)

เราพามาดูแบบบ้านตัวอย่างหลังใหญ่สุดของโครงการกันบ้าง นั่นก็คือ Lé Ciel (เรอซีแอล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 438 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน โดยจะเป็นตำแหน่งบ้านแปลงมุมใกล้ถนนหลักและส่วนกลางทั้งหมด ทำให้ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว จึงมีความเป็นส่วนตัวสูงและขับเข้า-ออกโครงการได้ง่าย

สำหรับจุดแตกต่างชัดๆของแบบบ้านนี้กับแบบอื่นๆก็คือ จำนวนฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นอย่างห้องนอนที่มากถึง 5 ห้อง, ห้องน้ำเพิ่มเป็น 6 ห้อง, มีห้องแม่บ้าน 2 ห้องและการออกแบบ Master Bedroom ที่มีความ Grand โอ่อ่ากว่าเดิม โดยเป็นห้องแนวยาว มีพื้นที่ภายในห้องขนาดใหญ่มากๆ งั้นเราพาไปชมบรรยากาศภายในบ้านกันเลยค่ะ

Image 1/2
Lé Ciel (เรอซีแอล)

Lé Ciel (เรอซีแอล)

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 4 คันในร่ม ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger และห้องเก็บของและทางลาดรองรับวีลแชร์
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงวางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
  • Foyer พื้นที่ต้อนรับ 2 จุดทั้งบริเวณประตูหลักและประตูรอง
  • Double Living Area มีพื้นที่นั่งเล่น 2 จุด
  • พื้นที่นั่งเล่นรองรับแขก ออกแบบเป็น Double Volume ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น 2 จุด, Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมมีประตูเปิดออกไปพื้นที่ด้านหลังบ้านได้
  • Powder Room ห้องน้ำสำหรับรองรับแขก
  • ห้องครัวแบบปิด ก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ลานซักล้าง พื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า
  • ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำ เชื่อมต่อไปยังห้องครัว-ลานซักล้าง
  • ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้ พร้อมห้องน้ำในตัวและมีประตูเปิดออกไปสวนหลังบ้านได้
  • ห้องเก็บของใต้บันได สำหรับเก็บของชิ้นใหญ่ได้

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่น, ทำงาน, ออกกำลังกายหรือพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงก็ได้
  • ออกแบบแยกฝั่ง Junior Master Bedroom และห้องนอนอื่นๆ
  • Double Master Bedroom ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง
  • Master Bedroom อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่ กั้นแบ่งเป็นพื้นที่ Walk – in Closet ขนาดใหญ่ได้สบาย พร้อมระเบียงส่วนตัว 3 จุด
  • Master Bathroom ติดตั้งอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
  • Junior Master Bedroom ขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom
  • Junior Master Bathroom มีขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งอ่างอาบน้ำมาเรียบร้อย
  • ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน วางเตียง 6 ฟุตได้ พร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานง่าย

Image 1/2
พื้นที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถ

สำหรับบริเวณด้านหน้าบ้านจะมีการออกแบบเหมือนกันทุกหลังนะ ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนทำสีดำที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติมาให้ พร้อมโคมไฟ กริ่ง กล่องไปรษณีย์ตรงหน้าบ้าน และมีถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านในที่ออกแบบช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยด้วยค่ะ

พื้นที่จอดรถของแบบบ้านนี้จะจอดได้ 4 คัน มีโครงสร้างที่จอดรถจะเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน พร้อมปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร ที่มีลวดลายเหมือนบ้านตัวอย่าง

ส่วนบริเวณด้านหลังของพื้นที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารองที่ติดตั้ง Digital Door Lock จาก YALE บริเวณประตูทางเข้ารอง สามารถรองรับได้ 5 ระบบ ได้แก่ Fingerprint, Password, Card, Key และ Application มาให้เรียบร้อย, Junction Box รองรับ EV Charger, ห้องเก็บของใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์รถยนต์หรือทำสวนและมีทางลาดความกว้างประมาณ 1 เมตร เพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร์ได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีติดตั้ง CCTV จำนวน 3 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ, Common Area และบริเวณหลังบ้าน เพื่ออยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

Image 1/2
พื้นที่สวนรอบบ้าน

พื้นที่สวนรอบบ้าน

พื้นที่สวนรอบบ้านจะมีการจัดสวนตามมาตรฐานโครงการทั้งการปูสนามหญ้า, ลงต้นไม้ใหญ่และแต่งสวนมาให้เรียบร้อยเลย อย่างบ้านตัวอย่างก็ได้ตกแต่งสวนเพิ่มเติมและทำมุมนั่งเล่นในสวนให้ดูเป็นไอเดียและนำไปปรับใช้กันได้นะคะ

โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดด-ฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร เป็นพื้นที่ให้วางชั้นวางรองเท้าหรือที่เก็บร่มได้ด้วย ส่วนประตูทางเข้าบ้านนี้จะเป็นอะลูมิเนียม สีเทาดำ จาก TOSTEM ดูสวยงามดีเลยค่ะ

Image 1/3
Foyer

Foyer

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Foyer พื้นที่ต้อนรับที่มีพื้นที่ด้านข้างสามารถตั้งชั้นวางของ ชั้นวางรองเท้าพร้อมเก้าอี้นั่งใส่รองเท้าได้ด้วย ส่วนพื้นที่นั่งเล่นสำหรับต้อนรับแขกอยู่ด้านข้าง ทำให้เวลาแขกหรือเพื่อนมาเยี่ยมก็สามารถพาเดินมานั่งพูดคุยกันบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้ได้เลยนั่นเอง

บริเวณ Foyer และพื้นที่นั่งเล่นสำหรับต้อนรับแขกจะออกแบบเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูงประมาณ 6 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านก็โปร่งโล่งมากๆ อีกทั้งยังมีช่องหน้าต่างด้านบน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ประกอบกับมีโถงบันไดอยู่ด้านข้างอีก ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านที่โปร่งสบายมากๆ

Image 1/2
พื้นที่นั่งเล่นสำหรับต้อนรับแขก

พื้นที่นั่งเล่นสำหรับต้อนรับแขก

ทางโครงการออกแบบเป็น Double Living Area ในแบบบ้านหลังกลาง-ใหญ่ จึงแบ่งเป็นพื้นที่รองรับแขกและพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว แยกการใช้งานได้ชัดเจนดี อย่างเวลาที่แขกมาเยี่ยมก็มานั่งตรงนี้ได้เลย ส่วนสมาชิกในบ้านและพื้นที่ด้านในบ้านก็ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นั่นเอง

พื้นที่นั่งเล่นสำหรับรองรับแขก ขนาด 4.10×5.80 เมตร จะอยู่ด้านข้างของ Foyer โดยจัดโต๊ะกลางและโซฟาล้อมรอบ ทำให้สามารถรองรับแขกได้เยอะ พร้อมหน้าต่างกระจกรับแสงธรรมชาติและวิวสวนรอบบ้าน ได้บรรยากาศสดชื่นดี

ส่วนพื้นที่ทางฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็น Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 5.70×10.60 เมตร ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันและได้บรรยากาศโปร่งโล่ง อยู่สบาย ไม่อึดอัด พร้อมหน้าต่างยาวตลอดแนวผนัง ก็ทำให้ดึงแสงธรรมชาติและเวลานั่งเล่นอยู่บริเวณนี้ก็เปิดรับวิวสวนด้านหลังบ้านด้วยนั่นเอง

สำหรับวัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร พอเลือกเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ก็ทำให้ภายในบ้านดูกว้างมากขึ้น ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร พร้อมติดตั้งไฟ LED แบบดาวน์ไลท์และผนังภายในบ้านจะฉาบเรียบทาสีขาว รวมถึงติดตั้งสวิตช์-ปลั๊ก จาก LEGRAND พร้อม Home Automation ภายในบ้าน ได้แก่ Smart Siren, Touch Screen ระบบควบคุมไฟ, IR Control เครื่องปรับอากาศ, Smoke Sensor, Motion Sensor บริเวณชั้น 1-2, Magnetic Sensor บริเวณชั้น 1-2 และปุ่ม SOS บริเวณห้องน้ำชั้นล่าง รวมถึง CCTV ตรงพื้นที่ Common Area ด้วย

Image 1/2
พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว

พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว

อย่างที่เราได้เกริ่นไปนะคะว่าทางโครงการออกแบบเป็น Double Living Area ทำให้บริเวณด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่รองรับแขก ส่วนพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ทำให้สมาชิกอื่นๆในบ้านก็มานั่งเล่นตรงบริเวณนี้ได้ถึงแม้จะมีแขกมาเยี่ยมคุณพ่อ คุณแม่ของเราที่บ้านค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว ขนาด 3.60×5.70 เมตร ซึ่งเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ทั้ง Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของ สามารถตั้งโซฟาเป็นรูปตัว L และโซฟาด้านข้าง พร้อมตั้งโต๊ะกลางได้สบายๆเลยค่ะ

Image 1/5
ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.75×5.70 เมตร ที่ใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ พื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ ปูพื้นเป็น SPC ลายไม้ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านข้าง นอกจากนั้นยังได้ช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง และสามารถเปิดประตูออกไปยัง Terrace ด้านหลังบ้านได้ด้วย ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×60 เซนติเมตร จึงใช้เป็นมุมนั่งเล่นในสวนเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียได้เลยค่ะ

นอกจากนั้นห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวเลย ทำให้คุณปู่ คุณย่าสามารถเดินมานั่งเล่น พูดคุยกับลูกๆหลานๆในครอบครัวได้โดยไม่ต้องนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องด้วย

Image 1/5
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง

ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง

ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 1.75×2.70 เมตร ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ที่ออกแบบมารองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เลือกใช้ประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย, พื้นระดับเดียวกันทั้งหมด พร้อม Floor Drain เรียบๆบริเวณประตูห้องน้ำ ป้องกันไม่ให้น้ำไหลไปบริเวณอื่น

ส่วนการออกแบบภายในห้องน้ำก็มีการแยกส่วนแห้ง-เปียกไว้อย่างชัดเจน ติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ยกเว้นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ส่วนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะมีตู้เก็บของด้านล่างสำหรับเก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.90 เมตร พร้อมติดตั้งฝักบัวจาก KOHLER และที่สำคัญได้ก่อที่นั่งอาบน้ำมาให้เรียบร้อยเลย ทำให้คุณปู่-คุณย่านั่งอาบน้ำได้สะดวกดี แต่เราแนะนำให้ติดตั้งพวกราวจับช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยตรงบริเวณโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำนะคะ

Image 1/2
พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry

พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry

เราพากลับมาดู Common Area กันต่อ โดยบริเวณที่ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry โดยสามารถวางโต๊ะ 8 ที่นั่งได้สบายๆ มีพื้นที่เดินรอบโต๊ะกว้าง ส่วนตรงมุม Pantry สามารถก่อเป็นเคาน์เตอร์และชั้นวางของเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งได้เลยค่ะ ทำเป็นบาร์นั่งดื่มเล็กๆได้ รวมถึงเตรียมอาหารง่ายๆได้เหมือนกัน

บริเวณด้านหลังของ Pantry นี้จะเป็นห้องครัว ทำให้สามารถจัดเสิร์ฟอาหารได้ง่าย ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Powder Room ห้องน้ำที่รองรับการใช้งานเวลานั่งเล่นอยู่ที่ชั้น 1

Image 1/2
Foyer ของประตูทางเข้ารอง

Foyer ของประตูทางเข้ารอง

ก่อนที่จะพาไปดู Powder Room และห้องครัว ขอบอกก่อนว่าแบบบ้านนี้จะได้ Double Foyer จึงมี Foyer พื้นที่ต้อนรับอีกจุดตรงประตูทางเข้ารอง อยู่บริเวณด้านข้างของ Common Area นั่นเอง ซึ่งพอเดินจากพื้นที่จอดรถเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับ Foyer นี้มีขนาด 2.00×2.30 เมตร เหมาะทำ Built-in ตู้เก็บรองเท้าพร้อมพื้นที่นั่งใส่รองเท้าได้เลย ส่วนด้านข้างของ Foyer จะเป็นห้องเก็บของใต้บันไดไว้สำหรับเก็บเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้

Image 1/3
Powder Room

Powder Room

Powder Room จะเป็นห้องน้ำรับแขก จึงไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำ โดยมีขนาดประมาณ 1.60×2.10 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร เลือกใช้อ่างล้างมือจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ จาก American Standard จึงใช้งานได้ง่าย เราชอบที่ทางโครงการออกแบบเคาน์เตอร์อ่างล้างมือกว้างเท่าตัวห้องน้ำเลย ทำให้มีพื้นที่วางของได้เยอะดี

Image 1/4
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

ทางโครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิดขนาด 3.10×3.70 เมตร โดยใช้เป็นครัวไทยได้สบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันจะลอยเข้าไปภายในบ้าน เพราะมีทั้งหน้าต่างและประตูที่เชื่อมไปยังโซน Service ให้เราสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้นั่นเอง

ซึ่งมีการทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L มาให้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ Top Counter ด้วยหินเทียม ออกแบบมีตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่าง มีช่องเก็บของมาให้เยอะมากๆ โดยติดตั้งอ่างล้างมือจาก MEX, Hob & Hood จาก TEKA และติดตั้ง Backsplash เป็นกระเบื้องมาให้เรียบร้อย

Image 1/2
โซน Service

โซน Service

โซน Service จะอยู่ถัดจากห้องครัวเลย ซึ่งเป็นพื้นที่ลานซักล้างและห้องแม่บ้าน โดยโครงสร้างพื้นที่ลานซักล้างเป็นแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 40×40 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ใช้เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้สบายๆค่ะ

Image 1/2
ห้องแม่บ้าน

ห้องแม่บ้าน

ห้องแม่บ้านของแบบบ้านนี้จะมีมาให้ 2 ห้อง ทำให้สามารถใช้ห้องนึงเป็นห้องของแม่บ้าน ส่วนอีกห้องเป็นของช่างทำสวนก็ได้ และมีห้องน้ำที่ติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องน้ำมาเรียบร้อย ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบโซนแม่บ้านอยู่ใกล้ๆกับโซนลานซักล้างและห้องครัว จึงทำให้ทางแม่บ้านสามารถทำงานได้ง่ายดี

ก่อนที่เราพาขึ้นไปชั้น 2 กัน บันไดของบ้านจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC ลายไม้ มีความกว้างบันไดประมาณ 1.15 เมตร ด้านข้างมีราวกันตกเหล็กและมือจับ ทำสีเหมือนตัวบันได มีลูกนอนกว้างประมาณ 27 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม.

Image 1/2
Double Volume

Double Volume

ทางโครงการออกแบบบันไดอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านติดกับพื้นที่ Double Volume ทำให้ตอนยืนอยู่ตรงชั้น 2 มองลงไปด้านล่างจะได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งมากๆ อีกทั้งยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่หลายจุด ก็ยิ่งทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัดเลยค่ะ

Image 1/2
Family Area

Family Area

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นพื้น SPC ลายไม้ที่ให้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน และมีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วน ใช้งานได้นานขึ้น ส่วนความสูงของพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 3.00 เมตร

การออกแบบพื้นที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นฝั่งซ้าย-ขวา มี Family Area อยู่ตรงกลางชั้น 2 ทำให้สมาชิกในบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ในระยะที่พอๆกัน โดย Junior Master Bedroom จะแยกฝั่งอยู่ห้องเดียว ไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Master Bedroom ที่หันไปด้านหน้าบ้านและห้องนอนรองอีก 2 ห้องที่หันไปฝั่งด้านหลังบ้าน

Family Area มีขนาดประมาณ 3.55×5.60 เมตร เหมาะเป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัวที่เป็นกันเองมากขึ้น ซึ่งเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ตั้งชั้นวางทีวีและโซฟา พร้อมโต๊ะกลาง แต่เราก็สามารถปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่ทำงานหรือพื้นที่สัตว์เลี้ยงได้เหมือนกันค่ะ

Image 1/2
Master Bedroom 

Master Bedroom 

Master Bedroom ของแบบบ้านนี้จะมีขนาดใหญ่มากๆประมาณ 4.80×7.50 เมตร และอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ทำให้มีหน้าต่างอยู่หลายจุด เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่ ถึงแม้ห้องนอนนี้จะอยู่ติดกับห้องนอนอื่นๆ แต่บริเวณพื้นที่เตียงนอนไม่ได้มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่น เราจึงมองว่าห้องนี้ไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่นะ

ด้วยความที่ Master Bedroom มีพื้นที่ภายในห้องกว้าง จึงสามารถกั้นกำแพงแบ่งเป็นห้อง Walk-in Closet สำหรับแต่งตัวเหมือนห้องตัวอย่างได้เลยค่ะ ขนาดมีการกั้นแบ่งพื้นที่ไปแล้ว บริเวณพื้นที่เตียงนอนก็ยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่เลยนะ งั้นเราพาไปดูแต่ละจุดกันต่อเลย

Image 1/2
Master Bedroom 

Master Bedroom 

บริเวณพื้นที่เตียงนอนของ Master Bedroom หลังจากกั้นแบ่งแยกพื้นที่ Walk-in Closet ไปแล้ว จะมีขนาดอยู่ที่ 4.50×4.80 เมตร ซึ่งเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยทั้งวางเตียง 6 ฟุต, เก้าอี้นั่งปลายเตียง, โต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่ง, โต๊ะนั่งทำงานด้านข้างและชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียง มีพื้นที่เดินรอบเตียงได้กว้าง

ส่วนด้านข้างของ Master Bedroom จะมีประตูกระจกเปิดไปยังระเบียงส่วนตัวอยู่ 3 จุด แบ่งเป็นบริเวณเตียงนอน 2 จุดและพื้นที่ Walk-in Closet 1 จุด ซึ่งนอกจากจะเปิดรับแสงธรรมชาติแล้ว ยังเดินออกไปชมวิวด้านหน้าบ้านได้ด้วย

Image 1/2
ระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom

ระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom

ระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom จะมีอยู่ 3 จุด มีขนาดประมาณ 0.85×1.60 เมตร สามารถใช้เป็นมุมปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่เขียวภายในบ้านและวิวสีเขียวให้ห้องนอนได้ เราแอบเสียดายว่าน่าจะออกแบบเป็นระเบียงแนวยาวเชื่อมกันไปเลย แต่ก็เข้าใจว่าพอออกแบบแยกเป็น 3 จุด ก็ทำให้หน้าตาบ้านดูมีมิติ อีกทั้งยังแบ่งการใช้งานได้ อย่างระเบียงจุดแรกเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ ส่วนอีก 2 จุดเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ได้นั่นเอง

อย่างที่เราได้มีเกริ่นไปแล้วนะว่าทางโครงการได้กั้นกำแพงและทำเป็นชั้นวางทีวี เพื่อแบ่งพื้นที่ระหว่างพื้นที่เตียงนอนและพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งเราว่าก็ดีเหมือนกันนะ เพราะทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนดี อีกทั้งยังสามารถติดตั้งประตูเพิ่ม เพื่อจะได้ป้องกันฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นจากห้องน้ำได้ด้วย

Image 1/2
พื้นที่ Walk-in Closet

พื้นที่ Walk-in Closet

พื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 3.00×4.80 เมตร สามารถตกแต่งเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างทำให้ดูเป็นไอเดียได้เลย ทั้ง Built-in ตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งการใช้งานเป็นชาย-หญิงได้ ส่วนตรงกลางก็ตั้ง Island สำหรับเก็บเครื่องประดับต่างๆและบริเวณด้านหลังของชั้นวางทีวีก็ทำเป็นโต๊ะแต่งหน้าที่ติดกระจกส่องบานใหญ่ได้สบายๆเลยค่ะ

Image 1/8
Master Bathroom

Master Bathroom

Master Bathroom มีขนาด 2.40×4.60 เมตร ปูกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้เป็นสัดส่วน ติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard

โดยเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นแบบ His & Her พร้อมช่องเก็บด้านล่าง ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.20×1.40 เมตร ติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower จาก KOHLER พร้อมฉากกั้นกระจกจาก I-SPA ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น รวมถึงมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-SPA มาให้ด้วย จึงสามารถนอนแช่น้ำผ่อนคลายได้สบายเลย

Image 1/6
Junior Master Bedroom 

Junior Master Bedroom 

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วนะว่าจุดเด่นของโครงการนี้คือได้ Double Master Bedroom ทุกหลัง ซึ่ง Junior Master Bedroom นี้ก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom เลยนั่นเอง แต่สำหรับ Junior Master Bedroom นี้จะมีข้อดีที่แยกอยู่ห้องเดียวเลย ไม่ต้องแชร์ผนังกับห้องนอนอื่น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงนั่นเอง

Junior Master Bedroom มีขนาดประมาณ 5.55×5.70 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ ส่วนด้านข้างทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้สบายๆ บริเวณปลายเตียงก็ทำ Built-in ชั้นวางทีวีได้ด้วย มีพื้นที่เดินรอบเตียงกว้าง

บริเวณด้านหน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่แต่งตัวขนาด 2.25×3.00 เมตร เราจึงสามารถ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ หรือใครที่มีเสื้อผ้าเยอะหน่อยก็ทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าตรงฝั่งด้านหน้าห้องน้ำเพิ่มได้อีกนะ

Image 1/6
Junior Master Bathroom

Junior Master Bathroom

Junior Master Bathroom จะมีการออกแบบและเลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำคล้ายกับ Master Bathroom เลยค่ะ โดยมีการแบ่งโซนแห้ง-เปียก ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.00×1.20 เมตร ติดตั้งฝักบัวแบบ Hand-Rain Shower จาก KOHLER พร้อมฉากกั้นกระจกและมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก I-SPA

ดังนั้นจึงมีจุดแตกต่างกันเพียงนิดเดียวตรงขนาดห้องที่เล็กกว่าหน่อยและเคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่จะมีเพียง 1 อ่าง แต่ยังคงได้เคาน์เตอร์แบบยาวอยู่ ทำให้ได้พื้นที่วางของเยอะนั่นเอง เรียกว่าห้อง Junior Master Bedroom และ Bathroom สามารถใช้งานและอยู่อาศัยได้สบายพอๆกับ Master Bedroom เลยค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1 จะเป็นห้องที่อยู่สุดทางเดินเลย โดยตัวห้องมีลักษณะเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีขนาดอยู่ที่ 4.35×4.90 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่ง ได้สบายๆ รวมถึงจะ Built-in ชั้นวางทีวีหรือตั้งเป็นโต๊ะอ่านหนังสือเหมือนบ้านตัวอย่างได้เหมือนกัน มีพื้นที่เดินผ่านได้และมีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวได้ด้วยค่ะ สามารถ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าเต็มผนังเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียได้เลย

Image 1/4
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1

ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 จะมีขนาดอยู่ที่ 1.60×2.70 เมตร ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการออกแบบและเลือกใช้สุขภัณฑ์เหมือนกับห้องนอนชั้นล่างเลย แต่จะไม่มีการก่อที่นั่งอาบน้ำมาให้นั่นเอง โดยมีการแบ่งแยกส่วนแห้ง-เปียกเป็นสัดส่วน ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER ทั้งหมด ยกเว้นเลือกใช้โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ส่วนพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำจาก I-SPA มาให้เรียบร้อยเลย

Image 1/4
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ติดกับห้องนอนรอง 1 เลย โดยเป็นห้องที่เล็กกว่าและเป็นห้องแนวยาว มีขนาดห้องประมาณ 3.65×5.90 เมตร โดยสามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ มีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือวางโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือได้เหมือนกัน ส่วนบริเวณปลายเตียงสามารถใช้เป็นทีวีแบบแขวนเหมือนบ้านตัวอย่าง ก็ทำให้มีพื้นที่รอบเตียงกว้างดีค่ะ

บริเวณด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ประมาณ 1.50×2.60 เมตร ทำเป็นพื้นที่แต่งตัวได้เลย หรือจะกั้นเป็น Walk-in Closet ก็ดีเหมือนกัน ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนดี รวมถึงช่วยป้องกันฝุ่นและความชื้นจากเสื้อผ้าและห้องน้ำไม่ให้ลอยมายังพื้นที่เตียงนอนด้วยค่ะ สำหรับพื้นที่แต่งตัวก็สามารถ Built-in โต๊ะเสื้อผ้าและตู้เสื้อผ้าเต็มผนังเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียได้เลยนะ ใช้งานได้ต่อเนื่องดีด้วย เพราะข้างๆเป็นห้องน้ำเลยนั่นเอง

Image 1/4
ห้องน้ำของห้องนอนรอง 2

ห้องน้ำของห้องนอนรอง 2

ห้องน้ำของห้องนอนรอง 2 มีการออกแบบเหมือนกับห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ มีขนาด 1.60×2.70 เมตร ปูพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีการแบ่งโซนแห้ง-เปียก พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER ส่วนโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard

รวมถึงเลือกใช้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่มีช่องเก็บของด้านล่างเหมือนห้องน้ำอื่นๆ สำหรับพื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 เมตร ติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower จาก KOHLER และฉากกั้นกระจกจาก I-SPA มาให้ด้วยค่ะ


Monté (มอนเต้)

สำหรับแบบบ้าน Monté (มอนเต้) จะเป็นบ้านหลังกลางของโครงการนี้ โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน โดยตำแหน่งของบ้านส่วนใหญ่จะเป็นแปลงมุมที่อยู่ด้านในสุด ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะนอกจากจะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียวแล้ว ยังอยู่ห่างจากถนนหลักและส่วนกลางด้วย ทำให้มีรถและคนพลุกพล่านน้อย แต่ก็มีแปลงบ้านที่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางให้เลือกเหมือนกันนะคะ

Monté (มอนเต้) จะได้มีการออกแบบที่ค่อนข้างแตกต่างจากแบบบ้านเริ่มต้น Sierra (เซร่า) อยู่หลายจุดเหมือนกัน เพราะแบบบ้านนี้จะได้พื้นที่จอดรถ 4 คันและฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Double Living Area, Double Master Bedroom และ Double Volume พื้นที่ฝ้าเพดานสูงตรงพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากๆ

แต่สำหรับแบบบ้านนี้จะเป็นบ้านเปล่าๆ ซึ่งเป็นบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการจะส่งมอบให้กับลูกบ้าน จึงไม่มีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเลย แต่มีข้อดีที่ทำให้เราได้เห็นพื้นที่ใช้งานจริงภายในบ้านเลยนั่นเอง

Image 1/2
Monté (มอนเต้)

Monté (มอนเต้)

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 4 คันในร่ม ด้านหลังที่จอดรถมี Junction Box รองรับ EV Charger และห้องเก็บของและทางลาดรองรับวีลแชร์
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีชายคากันแดดและฝน พร้อมพื้นที่เฉลียงวางตู้เก็บรองเท้าและร่มได้สะดวก
  • Foyer ออกแบบเป็น Double Volume ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • Double Living Area มีพื้นที่นั่งเล่น 2 จุด
  • พื้นที่นั่งเล่นรองรับแขก ออกแบบเป็น Double Volume ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น 2 จุด, Pantry และพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อมมีประตูเปิดออกไปพื้นที่ด้านหลังบ้านได้
  • Powder Room ห้องน้ำสำหรับรองรับแขก
  • ห้องครัวแบบปิด ก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ลานซักล้าง พื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า
  • ห้องแม่บ้าน 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำ เชื่อมต่อไปยังห้องครัว-ลานซักล้าง
  • ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้ พร้อมห้องน้ำในตัว
  • ห้องเก็บของใต้บันได สำหรับเก็บของชิ้นใหญ่ได้

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวหรือทำเป็นพื้นที่ทำงาน
  • ออกแบบแยกฝั่ง Double Master Bedroom และห้องนอนรอง
  • Double Master Bedroom ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง
  • Master Bedroom อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน กั้นแบ่งพื้นที่ Walk – in Closet ขนาดใหญ่ได้สบายๆ พร้อมระเบียงส่วนตัว
  • Master Bathroom ติดตั้งอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
  • Junior Master Bedroom ขนาดใหญ่พอๆกับ Master Bedroom
  • Junior Master Bathroom มีขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งอ่างอาบน้ำมาเรียบร้อย
  • ห้องนอนรอง วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย พร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานง่าย

Image 1/19
พื้นที่จอดรถ 4 คัน

พื้นที่จอดรถ 4 คัน

ภาพบรรยากาศภายในแบบบ้าน Monté (มอนเต้) บริเวณชั้น 1

Image 1/10
Family Area

Family Area

ภาพบรรยากาศภายในแบบบ้าน Monté (มอนเต้) บริเวณชั้น 2

ราคา

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1)  ราคา ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2568

  • Sierra (เซร่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 312 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 23 ล้านบาท
  • Monté (มอนเต้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 391 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท
  • Lé Ciel (เรอซีแอล)บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 110 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 438 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท
  • ค่าจอง 100,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 345,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion พิเศษอื่นๆ ติดต่อทางสำนักงานขายได้เลยค่ะ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการตั้งอยู่ติดถนนบางแวก เดินทางได้สะดวก แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่บนทำเลที่มักตั้งอยู่ภายในซอย โดยจะอยู่ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งตัวโครงการจะอิงมาฝั่งถนนกาญจนาภิเษกมากกว่า มีระยะห่างเพียง 1.0 กิโลเมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปโซนอื่นๆได้ง่าย มีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกและทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนีในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก รวมถึงมีรถไฟฟ้าหลายสายเป็นตัวเลือกในการเดินทาง ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีภาษีเจริญและรถไฟฟ้าในอนาคต สายสีเขียวเข้ม สถานีบางเชือกหนัง ทำให้เดินทางบนทำเลได้ง่ายขึ้น

ส่วนความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายเรียงรายตลอดแนวถนน ใกล้ๆโครงการจะมี The Mall Lifestore บางแค และ The Paseo Park กาญจนาภิเษก แต่ความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลจะอิงมาโซนราชพฤกษ์ที่มีทั้ง The Circle ราชพฤกษ์ และ Food Villa ราชพฤกษ์ นั่นเอง ส่วนโรงพยาบาลและสถานศึกษาก็มีอยู่หลายแห่งเลยในระยะ 10 กม. ทำให้อยู่อาศัยได้สะดวกสบายมากๆ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ทางเข้า – ออกแบบระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ควบคู่กับรั้วเหล็กรางเลื่อน นอกจากนั้นได้ติดตั้งระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 29 จุด พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และรั้วทึบรอบโครงการสูง 3.00 เมตร พร้อมต่อรั้วระแนงเพิ่ม 2.50 เมตร

ส่วนตัวบ้านจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติตรงประตูรั้วบ้านมาให้, Digital Door Lock ตรงประตูทางเข้ารองทุกหลัง, CCTV จำนวน 3 ตัว บริเวณพื้นที่จอดรถ, Common Area และบริเวณหลังบ้าน รวมถึง Home Automation ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง Smart Siren, Smoke Sensor, Motion Sensor บริเวณชั้น 1-2, Magnetic Sensor บริเวณชั้น 1-2 และปุ่ม SOS บริเวณห้องน้ำชั้นล่างในบ้านทุกหลังด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ถือว่าตัวโครงการมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าโครงการเพื่อนบ้านบนทำเลเดียวกัน ด้วยจำนวนเพียง 58 ยูนิต ทำให้ได้บรรยากาศในโครงการที่เป็นส่วนตัวดี รวมถึงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ นอกจากจะเป็นมุมต้อนรับที่สวยงามแล้ว ยังเป็น Buffer Zone กันกลิ่นและเสียงจากถนนไม่ให้เข้าไปยังโซนบ้านพักอาศัย อีกทั้งแยกส่วนกลางออกมา ทำให้บรรยากาศโซนบ้านพักอาศัยได้ความเงียบสงบ ตัวบ้านยังหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ที่เป็นทิศยอดนิยมในโครงการบ้านจัดสรร เพราะไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดีนั่นเอง

สำหรับการออกแบบตัวบ้านก็ถือว่าโดดเด่นเลย เพราะถึงแม้จะเป็นบ้านเดี่ยวที่ดิน 100+ ตร.วา เหมือนโครงการอื่นๆบนทำเล แต่เน้นฟังก์ชันแบบ Double ในบ้านทุกหลัง มีทั้ง Double Master Bedroom และมีอ่างอาบน้ำทั้ง 2 ห้อง รวมถึง Double Volume พื้นที่ฝ้าเพดานสูงตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้น ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง อยู่ได้ไม่อึดอัด ส่วนแบบบ้านอื่นก็มี Double Living Space พื้นที่รับแขก-พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวและ Double Foyer พื้นที่ต้อนรับ 2 จุดด้วย อีกทั้งยังออกแบบ Universal Design ทั้งทางลาดและห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัวจึงรองรับผู้สูงอายุได้สบาย

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา รองรับการทุบ-ต่อเติมขยับขยายพื้นที่ได้ส่วนโครงสร้างที่จอดรถและลานซักล้างเป็น Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นทรุดตัวเลยค่ะ

วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร ช่วยทำให้บ้านดูกว้างมากขึ้น และชั้น 2 เป็นพื้น SPC ลายไม้ที่ทนทานต่อความชื้นและรอยขีดข่วน ส่วนห้องครัวได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว Top หินเทียม พร้อมตู้เก็บของทั้งบน-ล่าง ติดตั้งอ่างล้างจานจาก MEX, Hob และ Hood จาก TEKA และ Backsplash เป็นกระเบื้องมาให้เรียบร้อย สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเลือกใช้จาก KOHLER เป็นหลัก พร้อมอ่างอาบน้ำจาก I-SPA ใน Master Bedroom และ Junior Master Bedroom

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พื้นที่สวนหย่อมในโครงการมีอยู่ 2 จุด แบ่งเป็นสวนด้านหน้า Clubhouse ขนาด 274.5 ตร.วา และ Main Park สวนแนวยาวตรงกลางขนาด 342.5 ตร.วา รวมทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ครึ่ง เป็นเหมือนมุมต้อนรับที่สวยงามเวลาขับรถเข้า-ออกโครงการ เลือกใช้ต้นไม้เล็ก-ใหญ่และดอกไม้เพิ่มสีสันสดใสในสวนได้ดี

นอกจากนั้นยังออกแบบและจัดสวนสีเขียวตั้งแต่ป้ายชื่อโครงการที่อยู่บริเวณด้านหน้า เข้ามายังซุ้มประตูและถนนด้านในโครงการ ซึ่งนอกจากจะช่วยดึงสายตาเข้ามายังด้านในโครงการแล้ว ยังสร้างบรรยากาศสดชื่น น่าอยู่อาศัยภายในโครงการด้วย

สาธารณูปโภค :

ถึงแม้จะเป็นโครงการที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็จัดฟังก์ชันมาให้ครบครัน โดย Clubhouse และ Main Park จะอยู่ใกล้ๆกันจึงใช้งานได้ต่อเนื่อง ส่วนภายใน Clubhouse ประกอบด้วย Lobby & Lounge, สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมแบ่งสระเด็ก, Fitness และ Meeting Room สำหรับภายในสวนสีเขียวจะมีสนามเด็กเล่น, พื้นที่นั่งเล่นในสวน, Party Court, Pavilion ศาลานั่งพักผ่อน และเอาใจชาว Pet Parent ด้วยการออกแบบ Pet Station เป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเลย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 23-32 ล้านบาท, 6 สิงหาคม 2568

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนบางแวก อิงมาฝั่งถนนกาญจนาภิเษก แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่บนทำเลที่มักตั้งอยู่ภายในซอย
  • ความปลอดภัย 8.5/10 – ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์, CCTV ในโครงการ 29 จุด, รปภ. 24 ชั่วโมง, รั้วทึบ 3.00 เมตร + รั้วระแนง 2.50 เมตร, มอเตอร์ไฟฟ้าอัตโนมัติตรงประตูรั้วบ้าน, Digital Door Lock, CCTV 3 ตัว, Smart Siren, Smoke Sensor, Motion Sensor, Magnetic Sensor และปุ่ม SOS
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – ตัวบ้านที่ดิน 100+ตร.วา พื้นที่ใช้สอยใหญ่ มี Double Volume+Double Master Bedroom+ห้องนอนชั้นล่างทุกหลัง
  • วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สวน 2 จุด รวมประมาณ 1 ไร่ครึ่ง พร้อมจัดสวนตั้งแต่ด้านหน้ามายังถนนภายในโครงการ ได้บรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่อาศัย
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ออกแบบสวยและน่าใช้งาน จัดฟังก์ชันมาให้ครบครัน
  • 8.06 / 10.00

Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) เหมาะกับใคร

โครงการ Grand Velana Crown Kanchana-Sai 1 (แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาฯ-สาย 1) เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย บนทำเลใกล้กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ เดินทางเชื่อมต่อได้สะดวก ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบค่อนข้างคึกคัก ส่วนตัวบ้านที่ดิน 100+ ตร.วา พื้นที่ใช้สอยใหญ่ 312-438 ตร.ม. โดดเด่นด้วย Double Volume+Double Master Bedroom+ห้องนอนชั้นล่างในบ้านทุกหลัง ทำให้อยู่อาศัยได้สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่ส่วนกลางครบครัน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 23-32 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 138,000-224,000 บาท

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่